ทัวร์โบรโม่ คาวาอิเจี้ยน บาหลี 5 วัน 4 คืน
ทัวร์อินโดนีเซีย: บาหลี โบรโม่ คาวาอิเจี้ยน 5 วัน 4 คืน
โบรโม่ ภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
คาวาอีเจี้ยน มีทะเลสาบบนปากปล่องอดีตภูเขาไฟสีเทอร์ควอยซ์ ชมเปลวไฟสีน้ำเงิน ที่เกิดจากการเผากำมะถัน
บาหลี เกาะสวรรค์แห่งอินโดนีเซีย ดื่มด่ำกับทะเลสีฟ้า วิวภูเขาไฟ ทุ่งนาสีเขียวและวัฒนธรรมที่งดงาม
เดินทางโดยสายการบินไลอ้อนแอร์ บินเข้าสุราบาย่า บินออกบาหลี
กำหนดเดินทาง: 01-05 พ.ค. 69// 25-29 ก.ค. 69
อัตราค่าบริการ
วันที่เดินทาง 01-05 พ.ค. 69 ท่านละ 28,900
วันที่เดินทาง 25-29 ก.ค. 69 ท่านละ 29,900 (ไฮซีซั่น)
* สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนน่ารัก อาหารทานง่าย
* พักสไตล์ Glamping 2 คืน ฟอกปอดให้สดชื่น แนบชิดกับธรรมชาติ
* นอนดึกตื่นเช้า นั่งรถนาน เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล และถนนแคบเป็นเลนสวน ไม่สามารถทำความเร็วได้
* การเข้าชมวัดบางแห่งจำเป็นจะต้องแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย และต้องมีโสร่งคลุมทับ หรือ ต้องมีผ้าคาดเอว
* มีเดินเทรคไปชมทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ เปลวไฟสีน้ำเงินที่คาวาอิเจี้ยน
* ชมน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสองของอินโดนีเซียที่ Madakaripura Waterfall
วันที่หนึ่ง สนามบินดอนเมือง-สุราบาย่า
05.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 3 ประตู 1 จากนั้น เช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ ที่เค้าเตอร์สายการบิน LION AIR
08.40 น. เหินฟ้าสู่ประเทศอินโดนีเซียด้วยเที่ยวบินที่ SL 268 ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง
12.40 น. เดินทางถึงสนามบิน Juanda International Airport สุราบาย่า ประเทศอินโดนีเซีย รับกระเป๋าสัมภาระ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 1)
บ่ายแก่ๆ หลังอาหารเดินทางสู่ โพรโบลิงโก (Probolinggo) เป็นเมืองชายฝั่งทางเหนือของจังหวัดชวาตะวันออก อยู่ใกล้ๆกับโบรโม่มีพื้นที่ 56.67 ตร.กม. และประชากรราว 243,746 คน(2024) เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องมะม่วง คนท้องถิ่นเรียก Mangga Manalagi เป็นจุดพักก่อนเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่โบรโม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง
เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 2)
ที่พัก โรงแรม LAVA VIEW HOTEL BROMO หรือเทียบเท่าระดับ 3ดาว
วันที่สอง Bromo Sunrise Bromo Crater -Madakaripura Waterfall Banyuwangi
03.00 น. ตื่นกันแต่เช้าตรู่ นำท่านนั่งรถจิ๊ป 4WDท้องถิ่น ไปยังยอดเขา Penanjakan Peak (2,770 เมตร) เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟโบรโม่(Mt. Bromo) เป็นภูเขาไฟที่ยังประทุอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Tengger Mountain มีความสูง 2,329 เมตร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Bromo Tengger Semeru National Park ยังอาจได้เห็นวิวภูเขาเซเมรู (Mt. Semeru) ซึ่งยังเป็นภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่เช่นเดียวกัน และเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะชวา มีความสูง 3,676 เมตร วิวภูเขา Batok มีความสูง 2,440 เมตร อยู่ทางตะวันตกของภูเขาไฟโบรโม่ เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ดับแล้ว เดินทางต่อไปบนทะเลทรายและนำท่านขี่ม้าไปยังเนินโบรโม่ จากนั้นเดินขึ้นบันไดต่ออีกประมาณ 250 ขั้น ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที เพื่อขึ้นไปบนยอดโบรโม่ชมปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นแบบใกล้ๆ สมควรแก่เวลานำท่านกลับที่พักäบริการอาหารเช้า(มื้อที่ 3) ที่ห้องอาหาร
09.00 น. เช็กเอ้าท์ออกจากที่พักนำท่านเดินทางสู่ น้ำตก Madakaripura Waterfall เป็นน้ำตกสูง 200 ม. ที่มีกระแสน้ำไหลลงมาราวกับสายฝนผ่านต้นไม้เขียวขจีในหุบเขาลึกทรงกระบอก จัดว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในชวาและสูงเป็นอันดับสองของอินโดนีเซีย จากจุดจอดรถบัสให้ท่านได้นั่งมอเตอร์ไซด์เข้าไปยังปากทางเข้าน้ำตก และเดินเท้าอีกประมาณ 1 กม. ก็จะถึงตัวน้ำตก อิสระถ่ายภาพ **เตรียมชุดกันฝน รองเท้าแตะรัดส้น**
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 4)
บ่าย สมควรแก่เวลาออกเดินทางกันต่อไปยังเมืองบันยูวางงี (Banyuwangi) ระยะทาง 231 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง อยู่ตะวันออกสุดของเกาะชวา เมืองใหญ่สุดของชวาตะวันออก เป็นเมืองแห่งเทศกาล เนื่องจากมีเทศกาลมากมายจัดตลอดปี ชื่อเมืองมีความหมายว่า น้ำหอม ตามชื่อแม่น้ำในตำนาน มีฉากหลังเป็นที่ราบสูง Ijen ทางทิศตะวันตก มีวิวทิวทัศน์สวยงามของเกาะบาหลีทางทิศตะวันออกเป็นจุดเริ่มต้นหลักของการเดินทางขึ้นภูเขาไฟอีเจี้ยน ถึงที่พักในช่วงค่ำ นำท่านเช็กอินเข้าที่พัก
เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 5) **รีบๆเข้านอนพักผ่อน เพราะต้องตื่นแต่ตั้งแต่เที่ยงคืน หากจะไปชมเปลวไฟสี น้ำเงิน**
ที่พัก โรงแรม KOKOON HOTEL BANYUWANGI หรือ เทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สาม Ijen Blue Flame / Sunrise Bromo Tanah Lot Temple - Kuta
**อาจมีการปิดไม่ให้ลงไปชมเปลวไฟสีน้ำเงินที่อิเจี้ยน (Ijen Blue Flame) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประกาศของทางอุทยานฯ**
เที่ยงคืน นั่งรถออกเดินทางไปยัง Paltuding ซึ่งเป็นจุดเริ่มเดินขึ้นอิเจี้ยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที 1 ชั่วโมง เมื่อรถจอดที่ลานจอดรถ จากนั้นเดินขึ้นเขา 2 กม. และทางราบอีก 1 กม. ไปยังปากปล่องภูเขาไฟ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงและเดินลงเขาไปด้านล่างอีกราว 800 เมตร ใช้เวลาราว 30 นาที (ควรเตรียม ไฟฉาดคาดศรีษะ ถุงมือ เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว และ หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ) เพื่อชมเปลวไฟสีน้ำเงิน (Ijen Blue Flame) ซึ่งสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว 1 ชั่วโมง จนถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 1 ชั่วโมง เปลวไฟสูงประมาณ 5 เมตร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้พบเสมอไป ที่อิเจี้ยนจะเป็นก๊าซซัลฟิวริกกับลาวา เมื่อกำมะถันภายในภูเขาไฟทะเลพื้นผิว จะมีอุณหภูมิสูงถึง 600 ๐C กำมะถันจะพบอุณหภูมิและแรงดันที่ต่ำกว่าที่พื้นผิวทันที ทำให้กำมะถันติดไฟทันทีและเปลวไฟสีน้ำเงินอาจปะทุสูงถึง 5 เมตร ในอากาศ โดยภูเขาไฟอิเจี้ยน อยู่ทางตะวันตกของ Gunung Merapi มีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟสีเทอร์ควอยซ์กว้าง 1 กม. อันเป็นที่ตั้งของการทำเหมืองกำมะถันที่ใช้แรงงาน หาบตะกร้ากำมะถันขึ้นมาจากด้านล่างแล้วขนลงไปที่หุบเขา Pultuding Valley อีก 3 กม. เพื่อรับเงิน จากนั้นเดินกลับขึ้นมาปากปล่องรอชมพระอาทิตย์ขึ้น สมควรแก่เวลาเดินทางกลับโรงแรมที่พัก
บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 6) ที่ห้องอาหารของโรงแรม และทำภาระกิจส่วนตัว
สาย เช็กเอ้าท์และเดินทางสู่ท่าเรือ Ketapang Habour และโดยสารเรือเฟอร์รี่สู่เมือง Gilimanuk ฝั่งบาหลีใช้เวลานั่งเรือ ราว 1 ชั่วโมง **เวลาท้องถิ่นที่บาหลีจะเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมง อย่าลืมปรับนาฬิกา**
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 7)
บ่าย หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วิหารทาห์นาล็อต (Tanah Lot Temple) ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ที่ตั้งของวัดฮินดูโบราณ ซึ่ง Tanah Lot ภาษาบาหลีหมายถึง ดินแดนในทะเล อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเดนปาซาร์ อยู่บนก้อนหินใหญ่นอกชายฝั่ง สร้างในศตวรรษที่ 16 โดย Dang Hyang Nirartha เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เป็นหนึ่งในเจ็ดวัดกลางทะเลรอบชายฝั่งบาหลี ที่ฐานของเกาะหิน เชื่อว่ามีงูทะเลปกป้องวัดจากวิญญาณชั่วร้ายและผู้บุกรุก ให้อิสระเดินเล่นถ่ายภาพ จนสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเช็กอินเข้าที่พัก
เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 8)
ที่พัก โรงแรม ARYADUTA HOTEL KUTA หรือเทียบเท่าระดับ 4ดาว
วันที่สี่ Tegalalang Rice Terrace - คินตามณี Tirta Empul Tibumana waterfall
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 9) ที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางไปชม นาขั้นบันได เทกาลาลัง (Tegalalang Rice Terraces) ใช้เวลาเดินทางราว 1ชั่วโมง เป็นจุดชมวิวนาขั้นบันไดอีกแห่งที่ขึ้นชื่อของบาหลี เป็นนาขั้นบันได ถือว่าเป็นประเทศแรกๆที่บุกเบิกการทำนาขั้นบันได ทัศนียภาพผสมปนเปหุบเขาที่โอบล้อมและต้นมะพร้าว คล้ายๆกับภาคใต้และภาคเหนือของไทยมารวมกัน อิสระถ่ายภาพ จิบกาแฟ จากนั้นเดินทางสู่เทือกเขา Kintamani เป็นพื้นที่บนที่สูงเขต Bangli Regency ชมความงามของวิวภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ปะทุครั้งแรกปี 1804 และล่าสุดคือ 2000 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,717 เมตร และทะเลสาบบาตูร์ Lake Batur เป็นทะเลสาบน้ำจืดรูปพระจันทร์เสี้ยว บนปากปล่องภูเขาไฟ มีความยาว 7-8 กม. กว้าง 2.5-3.5 กม. น้ำสีเขียวอมฟ้า
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10) ระหว่างทาง
บ่าย เดินทางต่อไปยัง วิหารน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ วัดตัมปัคซีริง (Tampaksiring Holy Spring Temple) หรือ เตียร์ตา เอ็มปุล (Tirta Empul Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดบนเกาะและเป็นจุดหมายปลายทางทางจิตวิญญาณที่สำคัญ มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนไปถึงปี ค.ศ. 962 สมัยราชวงศ์วาร์มาเดวา(Warmadewa) สร้างเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ เทพเจ้าแห่งน้ำและมีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ดึงดูดผู้คนมาสักการะหลายศตวรรษเพื่อแสวงหาการชำระล้างและฟื้นฟูจิตวิญญาณ **ต้องสวมโสร่ง ทางวัดมีให้ยืม** จากนั้นเที่ยวชม น้ำตกติบูมานา (Tibumana Waterfall) เป็นน้ำตกสายยาวลงสู่แอ่งน้ำสีฟ้าใส รายล้อมด้วยป่าฝนเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบกว่าน้ำตกอื่นๆในบาหลี เส้นทางเดินง่าย ระยะทาง 300-400 เมตร ใช้เวลาเดินราว 15 นาที อิสระถ่ายภาพ เล่นน้ำ
เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 11)
ที่พัก โรงแรม ARYADUTA HOTEL KUTA หรือเทียบเท่าระดับ 4ดาว
วันที่ห้า Uluwatu Temple Shopping - กรุงเทพฯ
เช้า บริการอาหารเช้า(มื้อที่ 14) หลังอาหารเช็กเอ้าท์และเดินทางไปยัง วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple) หรือ Pura Luhur Uluwatu เป็นหนึ่งในหกวัดสำคัญของบาหลี เชื่อว่ามีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 9 เป็นผลงานของ Mpu Kuturan นักปราชญ์ฮินดูที่เดินทางมาถึงบาหลีในศตวรรษที่ 11 เป็นวัดฮินดูในทะเลแบบบาหลี สร้างเพื่อปกป้องบาหลีจากพลังทางจิตวิญญาณเชิงลบที่มาจากมหาสมุทร หนึ่งในวัดริมผาที่สวยที่สุดของบาหลี สร้างอยู่ริมหน้าผาสูง 70 เมตร ที่ยื่นออกไปในทะเล อุทิศให้กับพระศิวะรุทระ (Shiva Rudra) วัดนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของลิงมานานหลายร้อยปี เชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์วัด อิสระถ่ายภาพ **ต้องสวมโสร่งและผ้าคาดเอว ทางวัดมีให้ยืม** สมควรแก่เวลานำท่านไปช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก ก่อนเดินทางกลับเมืองไทย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน(มื้อที่ 15) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบิน I Gusti Ngurah Rai International Airport เช็กอินโหลดสัมภาระ
18.15 น. ออกเดินทางกลับประเทศไทยด้วยเที่ยวบินที่ SL 259 ใช้เวลาบิน 4ชั่วโมง 20นาที
21.35 น. เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ
-โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
-ถนนหนทางที่ชวาและบาหลี เป็นถนนลาดยาง ถ้าในตัวเมืองรถจะค่อนข้างติดมาก ส่วนถนนที่ไปวัดและเข้าหมู่บ้านบางช่วงจะแคบ มีโค้งเยอะ
-ระยะเวลาในรายการเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
------------------------
อัตราค่าบริการนี้รวม
-โรงแรมที่พัก 4 คืน ระดับ 3-4 ดาว มาตรฐานประเทศอินโดนีเซีย ห้องละ 2 ท่าน
-รถนำเที่ยวตามรายการระบุ
-ไกด์ท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษและหัวหน้าทัวร์ไทย
-อาหารทุกมื้อตามที่ระบุ
-น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
-ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
-ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ทุนประกัน 1 ล้านบาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
-ภาษีท่องเที่ยวบาหลี
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
X ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ฝากซื้อได้ไม่ชาร์จเพิ่ม
X ค่าภาษีสนามบิน ค่าน้ำหนักสัมภาระเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
X ค่าทิปไกด์และคนขับรถท้องถิ่น 30 USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน และหัวหน้าทัวร์ไทย 500 บาท/ลูกค้าหนึ่งท่าน
X ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
X ค่ากิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากรายการระบุ
X ค่าเครื่องดื่มพิเศษที่ลูกค้าสั่งเพิ่ม
X ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าซักรีด ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์
X ค่าพักเดี่ยวเพิ่ม
X ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ
การจองและการชำระเงิน
1. มัดจำท่านละ 10,000 บาท ภายใน 3 วัน นับแต่วันจอง พร้อมส่งหน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง
2. กรณีฝากซื้อตั๋วต้องชำระค่าตั๋ว 100%
3 ส่วนที่เหลือชำระภายใน 30 วันก่อนเดินทาง
