ทัวร์อินเดีย Spiti Valley Circuit Road Trip 11 วัน 9 คืน
โดยสายการบินแอร์อินเดีย
พัก Chandigarh 1 คืน / Shimla 1 คืน / Sangla 1คืน / Kalpa 1คืน / Tabo 1คืน / Kaza 2คืน/
Chandrataal Lake 1 คืน และมะนาลี 1 คืน
Spiti Valley ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,800 เมตร เป็นหุบเขาที่ปกคลุมด้วยทะเลทรายในเทือกเขาหิมาลัย แห้งแล้งและหนาวเย็น ตั้งอยู่ในจังหวัด Lahaul-Spiti รัฐหิมาจัลประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย
Spiti หมายถึง ดินแดนกลาง คือแผ่นดินตรงกลางระหว่างเขตปกครองตนเองทิเบตและอินเดีย มีท้องฟ้ามีสีคราม ภูเขาปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารสีเขียวขุ่น เป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกันตลอดทริป เป็นการเดินทางรอบ Kinnaur บนทางหลวง Hindustan-Tibet และทางหลวง Manali - Kaza เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าจดจำ โดยการเดินทางจะเริ่มต้นที่ Chandigarh และสิ้นสุดใน Manali ผ่านกลุ่มหุบเขาสีเขียวชอุ่มของ Kinnaur และเข้าสู่ Badlands สีน้ำตาลของ Spiti Valley และมาลงสู่ Manali
กำหนดการเดินทาง: 24 กรกฎาคม 03 สิงหาคม 2569

กำหนดการเดินทาง: 24 กรกฎาคม 03 สิงหาคม 2569
อัตราค่าบริการ
ท่านละ 35,900 บาท (ไม่รวมค่าตั่วเครื่องบิน และ ค่าทิบ)
พักเดี่ยว เพิ่ม ท่านละ 10,000 บาท
โปรดอ่านก่อนตัดสินใจเดินทาง
รายละเอียดการเดินทาง
วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
19.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 7 Row N เคาท์เตอร์ สายการบิน AIR INDIA จากนั้นเช็กอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ
22.25 น. ออกเดินทางสู่ เมือง Delhi เที่ยวบินที่ AI 2303 ใช้เวลาบินประมาณ 4h45m บนเครื่องบินมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ

วันที่สอง 25 ก.ค. 69: CHNDIGARH SHIMLA
01.40 น. ถึงสนามบิน Indira Gandhi International Airport กรุงเดลี (เวลาที่อินเดียช้ากว่าบ้านเราประมาณ 1ชั่วโมง 30นาที) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านโหลดสัมภาระที่เค้าเตอร์สายการบินแอร์อินเดียและต่อเครื่องเพื่อบินต่อไปยังเมืองจันดิการ์ **อิสระอาหารเช้าในสนามบิน**
06.50 น. ออกเดินทางสู่ เมือง CHANDIGARH เที่ยวบินที่ AI 1743 ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที
07.55 น. ถึง สนามบิน Chandigarh Airport เมืองจันดิการ์ (Chandigarh) รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นเดินทางโดยรถ Tempo Traveller สู่ เมือง Shimla ระยะทาง 114 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งเมืองชิมลานั้นตั้งอยู่บนความสูง 2,276 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐหิมาจัลประเทศ เป็นเมืองตากอากาศบนเทือกเขาหิมาลัย เคยเป็นเมืองหลวงฤดูร้อนของบริติชอินเดียในปี 1864 เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ โบสถ์เก่า อากาศเย็นตลอดปี วิวภูเขาหิมาลัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 3) ระหว่างทาง
หลังอาหารออกเดินทางกันต่อ นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองชิมลาที่ถนน Mall Road เป็นถนนสายหลักและหัวใจของเมืองชิมลา ชม โบสถ์คริสต์ Christ Church เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองในอินเดียเหนือ รูปแบบสไตล์นีโอโกธิค สร้างเมื่อปี 1844 โดย Colonel J.T. Boileau (วิศวกรทหารอังกฤษ) เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1857 เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวอังกฤษในยุคอาณานิคม โดยรอบมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร คาเฟ่ เบเกอร์รี่ท้องถิ่น ให้อิสระทุกท่านได้เล่น ถ่ายภาพ ลองลิ้มชิมรสอาหารท้องถิ่น สมควรแก่เวลาเช็กอินเข้าที่พัก อิสระพักผ่อน
เย็น บริการอาหารค่ำ(มื้อที่ 4)
ที่พัก เมือง SHIMLA HOTEL ROYAL REGENCY หรือเทียบเท่า มี Wi-Fi
วันที่สาม SHIMLA- NARKANDA RAMPUR KARCHAM SANGLA **Long Journey**
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 5) ที่ห้องอาหาร
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ปลายทางที่ เมือง Sangla เดินทางระยะไกลกันวันนี้ ช่วงแรกถนนลาดยางดี วิวป่าสน ผ่าน Dhalli จุดเชื่อมถนนสายหลักไป Narkanda ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ Fagu ที่อยู่บนสันเขา ปลูกต้นแอปเปิ้ล ผ่านเมือง Theog หมู่บ้าน Matiana แหล่งปลูกแอปเปิ้ลสำคัญ เข้าสู่เขต เมือง Narkanda ซึ่งเป็นเมืองภูเขาเล็กๆ จากนั้นเริ่มลงเขาเข้าสู่หุบเขาแม่น้ำ Sutlej ถนนเริ่มคดเคี้ยว แต่ทิวทัศน์สวย ผ่านหมู่บ้านต่างๆมากมายไปจนถึง เมือง Rampur Bushahr เมืองใหญ่สุดก่อนเข้าเขตห่างไกล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 6)
บ่าย หลังอาหารออกเดินทางกันต่อเลาะเลียบแม่น้ำ Sutlej ผ่านเขตโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Jeori หมู่บ้านริมน้ำและจุดพักรถบรรทุกที่ Wangtu ผ่าน Tapri หมู่บ้านกลางหุบเขา เข้าสู่ เมือง Karcham ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ Baspa Valley ถนนจะเริ่มแคบ แต่วิวหุบเขาอลังการมาก ผ่านหมู่บ้าน Batseri เป็นหมู่บ้านไม้แบบ Kinnauri หมู่บ้าน Rakchham เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขา วิวแม่น้ำ Baspa และยอดเขาหิมาลัย ขับเรื่อยไปจนถึง เมือง Sangla เป็นเมืองหลักของ Baspa Valley ของเขต Kinnaur, Himachal Pradesh และถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านภูเขาที่มีวิวสวยที่สุดของอินเดียเหนือ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,680 เมตร นำท่านเช็กอินเข้าที่พัก
เย็น รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 7)
ที่พัก เมือง SANGLA PRAKASH REGENCY หรือเทียบเท่า มี Wi-Fi
วันที่สี่ : SANGLA CHITKUL - KALPA
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 8) ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช็กเอ้าท์และเดินทางต่อสู่ เมือง Chitkul ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นหมู่บ้านในเขต Kinnaur ของรัฐหิมาจัลประเทศ ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงพรมแดนอินเดีย-จีน (Tibet/Kinnaur-Ladakh Border) ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,450 เมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Baspa หมู่บ้านขนาดเล็ก บ้านไม้แบบดั้งเดิม วิถีชีวิตเกษตรและวิวภูเขาหิมาลัย ให้ท่านอิสระเดินถ่ายรูปรอบๆ และวัดในหมู่บ้าน Mathi Devi Temple เป็นวัดฮินดูอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี อุทิศให้กับเทพธิดา Mathi ผู้คุ้มครองชาวบ้านและหุบเขา ด้านในมีเทวรูปของเทพธิดา Mathi ทำด้วยไม้วอลนัทประดับด้วยหางจามรี ทุกเช้าจะรดน้ำและจุดธูปบูชา
สมควรแก่เวลาออกเดินทางกันต่อสู่ เมือง Kalpa ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 9)
หลังอาหารออกเดินทางกันต่อถึง เมือง Kalpa ในช่วงเย็น ตามตำนานเล่าว่า เป็นบ้านในฤดูหนาวของพระศิวะ หากฟ้าเปิดท่านจะได้เห็นยอดเขา Kinner Kailash และ Jorkandan ตั้งตระหง่านอยู่เหนือหมู่บ้าน และเมืองนี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,960 เมตร นำท่านเช็กอินเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อน
ค่ำ บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 10) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
ที่พัก เมือง KALPA KINNER VILLA หรือเทียบเท่า มี Wi-Fi

วันที่ห้า KALPA NAKO - TABO
เช้า บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)
หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมือง Nako ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เลาะเลียบแม่น้ำ Sutlej วิวหุบเขา Kinnaur สวยแปลกตา ผ่านเมือง Pooh เมืองเล็กๆ ขับต่อไปผ่านจุดบรรจบแม่น้ำ Sutlej กับแม่น้ำ Spiti อันเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่ Spiti Valley ที่ Khab Sangam จากนั้นถนนเริ่มไต่ระดับสูง วิวภูเขาหินสีน้ำตาลโล่งกว้าง ไปจนถึงเมือง Nako ตั้งอยู่บนความสูง 3,662 เมตร จากระดับน้ำทะเล และเป็นหมู่บ้าน ใน Kinnaur รัฐหิมาจัลประเทศ ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา Reo Purgyal ที่มีความสูง 6,816 เมตร เป็นหมู่บ้านโบราณบนเส้นทางการค้าทิเบต-อินเดีย เคยเป็นจุดพักของคาราวานเกลือและขนสัตว์ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายทิเบตช่วงศตวรรษที่ 10-11
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 12)
บ่าย เดินเที่ยวชม Nako Monastery ก่อตั้งโดย Lochen Ringchen Zangpo ในศตวรรษที่ 11 เป็นวัดเก่าเล็ก ๆ ที่มีประติมากรรมเก่าและจิตรกรรมฝาผนังเก่า มีสถาปัตยกรรมสไตล์ทิเบตคล้ายกับ Tabo Monastery มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์ดั้งเดิม บรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย จากนั้นเดินไปชม ทะเลสาบ Nako ซึ่งเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็กของชุมชน รอบทะเลสาบจะเต็มไปด้วยต้น Willow และต้น Poplar ในช่วงฤดูร้อนจะมีเรือให้พาย และในฤดูหนาวจะเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งให้เล่นบนทะเลสาบ สมควรแก่เวลาออกเดินทางสู่ เมือง Tabo ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน Spiti Valley ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,280 เมตร เช็กอินเข้าสู่ที่พัก
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 13) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
ที่พัก เมือง TABO MAITREY RESIDENCY หรือเทียบเท่า *ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต*

วันที่หก TABO -KAZA KIBBER VILLAGE CHICHAM BRIDGE - KAZA
07.00 น. บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 14) ที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. หลังอาหารเช้านำท่านเข้าชม Tabo Monastery เป็นวัดพุทธทิเบต นิกายเกลุกปะ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 996 โดยกษัตริย์ Yeshe-Ö แห่งอาณาจักร Guge ได้รับการฟื้นฟูโดย พระอาจารย์ Atisha ได้รับฉายาว่า Ajanta of the Himalayas เพราะจิตรกรรมฝาผนังที่สมบูรณ์และทรงคุณค่า ภายในมีภาพจิตรกรรมอายุมากกว่า 1,000ปี เล่าเรื่องชีวิตพระพุทธเจ้า ภาพ Mandala พระโพธิสัตว์ 32 องค์ ด้านหลังวัดมีถ้ำภาวนาอยู่บนหน้าผา ใช้ปฏิบัติธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมควรแก่เวลานำท่านมุ่งหน้าสู่ เมือง Kaza ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ขับผ่าน Sumdo อันเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ Pin และ แม่น้ำ Spiti วิวหุบเขาโล่ง
ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและศูนย์กลางการปกครองส่วนท้องถิ่นของหุบเขา Spiti ที่อยู่ห่างไกลในเทือกเขาหิมาลัยตะวันตกในเขต Lahaul และ Spiti ของรัฐหิมาจัลประเทศ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,650 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีความกดอากาศสูง คล้ายกับทิเบตและลาดัค ทั้งในด้านสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Spiti เป็นเขตการค้าและศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขา Spiti
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 15)
บ่าย หลังอาหารนำท่านเดินทางไปถ่ายภาพกันที่ Kibber Village อยู่ห่างจาก Kaza ประมาณ 20 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีความสวยงามในหุบเขา Spiti ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,205 เมตร บ้านหินสีขาวแบบดั้งเดิมเรียงสวย หมู่บ้านโบราณของชาวทิเบต-Spiti เคยเป็นจุดตั้งถิ่นฐานยุทธศาสตร์สูง ปัจจุบันเป็นประตูสู่ Kibber Wildlife Sanctuary จุดชมวิวรอบหมู่บ้านมองเห็นหุบเขา Spiti แบบพาโนรามา จากนั้นขับไปบนนถนนเลียบหน้าผาสู่ Chicham Bridge เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เชื่อมชุมชน Kibber-Chicham เปิดใช้งานเมื่อปี ค.ศ. 2017 เป็นสะพานคอนกรีตทอดข้ามหุบเหวลึกกว่า 300 เมตร สมควรแก่เวลาเดินทางกลับตัวเมือง Kaza
เย็น บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 16) หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก เมือง KAZA HOTEL LHASA NORLING หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด KAZA KEE MONASTERY - LANGZA KOMIC VILLAGE HIKKIM VILLAGE- KAZA
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 20) ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารออกเดินทางไปเที่ยวชมวัด Kee Monastery เป็นวัดพุทธทิเบตที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในหุบเขา Spiti ตั้งอยู่บนเนินเขา สูงจากระดับน้ำทะเล 4,166 เมตร ใกล้กับแม่น้ำ Spiti เป็นวัดพุทธทิเบตนิกายเกลุกปะและเป็นศูนย์ฝึกอบรมทางพระพุทธศาสนาให้กับพระลามะ ก่อตั้งในศตวรรษที่ 11 โดย Dromtön อุทิศให้กับ Lochen Tulku ผู้กลับชาติมาเกิดครั้งที่ 24 ของนักแปลผู้ยิ่งใหญ่ Rinchen Zangpo ช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ถูกปล้นสะดมและทำลายอย่างหนักโดยมองโกล ปี ค.ศ. 1821 ถูกปล้นช่วงสงครามระหว่าง Ladakh และ Kulu ปี 1840 วัดถูกไฟไหม้และปี 1975 แผ่นดินไหว วัดมีสามชั้น มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและหนังสือโบราณรวมถึงพระพุทธรูป จากนั้นเดินทางไปบนถนนไต่ระดับสู่ที่ราบสูง ไปยัง หมู่บ้าน Langza ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 4,400 เมตร ตั้งอยู่เชิงเขา Chau Chau Kang Nilda เป็นหมู่บ้านฟอสซิลโบราณและหมู่บ้านทิเบตดั้งเดิมที่ยังคงวิถีชีวิตเรียบง่าย มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนเนินเขาหันหน้าออกสู่หุบเขา Spiti เป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน จุดชมวิวพาโนรามาที่สวยมาก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 21)


บ่าย เดินทางต่อไปยังหมู่บ้าน Komic Village ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 4,587 เมตร เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ที่มีถนนถึง อยู่ห่างจากหมู่บ้าน Langza ประมาณ 10 กม. เป็นชุมชนพุทธทิเบตดั้งเดิมบนที่ราบสูงโล่ง ภายในมีวัด Tangyud Monastery เป็นหนึ่งในสองของอารามของนิกาย Sakya ที่เหลืออยู่ใน Spiti มีภาพจิตรกรรมโบราณ พระพุทธรูปและห้องสวดมนต์ มองเห็นภูเขาหิมาลัยแบบ 360 องศา จากนั้นเดินทางต่อไป หมู่บ้าน Hikkim ที่ระดับความสูงประมาณ 4,440 เมตร เป็นหมู่บ้านที่มีที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกและเป็นสถานีเลือกตั้งที่สูงที่สุดในโลก หมู่บ้านเล็กมาก สมควรแก่เวลาเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักที่เมือง Kaza
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 22) หลังอาหารอิสระพักผ่อน
ที่พัก เมือง KAZA HOTEL LHASA NORLING หรือเทียบเท่า

วันที่แปด KAZA -KUNZUM LA PASS CHANDRATAAL LAKE
เช้า บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 23) ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารออกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือ Chandrataal Lake ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ช่วงแรกจะเป็นถนนลาดยางสลับลูกรัง มีวิวแม่น้ำ Spiti ไปจนถึง Losar หมู่บ้านสุดท้ายของหุบเขาสปิติ จากนั้นจะเป็นทางลูกรังไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ Kunzum La Pass ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 4,551 เมตร คั่นระหว่างหุบเขา Lahaul กับหุบเขา Spiti Valley จากนั้นทางจะแคบลงและเป็นทางหินเข้าสู่ Batal ซึ่งอยู่ในหุบเขา Lahaul ที่ระดับความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
กลางวัน äบริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 24) ระหว่างทาง

บ่าย ออกเดินทางกันต่อถนนช่วงนี้จะค่อนข้างขรุขระ ข้ามลำธาร ไปจนถึงทะเลสาบ Chandrataal Lake จัดว่าเป็นทางโหดที่สุดของวัน แวะเช็กอินเก็บสัมภาระ จากนั้นออกไปเก็บแสงเย็นกันที่ทะเลสาบ Chandrataal Lake ซึ่งตัวทะเลสาบนั้นจะอยู่ห่างจากแค้มป์ที่พัก ประมาณ 2-3 กม. โดยทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,300 เมตร ใจกลางเทือกเขาหิมาลัย ชมทะเลสาบเปลี่ยนสีจากเฉดสีฟ้าใสเป็นมรกต ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว มีเทือกเขา Chandra Bhaga สีขาวที่บริสุทธิ์เป็นฉากหลัง จากจุดจอดรถเราต้องเดินเท้าเข้าไปที่ตัวทะเลสาบอีกประมาณ 1 กม.
เย็น บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 25) หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย กลางคืนสามารถออกมาถ่ายดาวได้ ถ้าท้องฟ้าเป็นใจ
ที่พัก CHANDRATAL PARASOL CAMP หรือเทียบเท่า *ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต*

วันที่เก้า CHANDRATAAL LAKE MANALI
06.00 น. บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 26) ที่ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองมะนาลี ระยะทาง 135 กม. ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชั่วโมง ขับออกมาจากทะเลสาบเราจะแวะชิมชา เข้าห้องน้ำที่ Batal จากนั้นเดินทางต่อแล้วเลี้ยวขวาที่ทางแยก Gramphu จุดตัดของถนนสำคัญกลางหุบเขาLahaul ขับต่อไปยังทางหลวง Kaza Manali ถนนเริ่มดีขึ้นผ่าน Chattru เป็นหมู่บ้านเล็กๆในเขต Lahaul ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 3,300 เมตร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 27)
บ่าย ออกเดินทางกันต่อจากนั้นผ่านอุโมงค์ Atal Tunnel, Rohtang เป็นอุโมงค์ถนนบนภูเขาที่ยาวที่สุดในโลกในระดับความสูง 3,000 เมตร ทางลัดสำคัญจาก Lahaul ไปยังมะนาลี มีความยาว 9.02 กม. เปิดใช้งานปี 2020 ซึ่ง เมืองมะนาลี นั้นเป็นเมืองตากอากาศใกล้เมือง Kullu ในเขต Kullu รัฐหิมาจัลประเทศ ปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นประตูสู่เขต Lahaulและสปิติ รวมถึงเมืองเลห์ในลาดัค ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 2,050 เมตรนำท่านเช็กอินเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 28) หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
ที่พัก เมือง MANALI HOTEL HIGH LAND หรือเทียบเท่า มี Wi-Fi
วันที่สิบ MANALI CHANDIGARH
06.00 น. บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 29) ที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเราจะนั่งรถกันยาวๆประมาณ 8 ชั่วโมง ไปสู่จุดหมายปลายทางคือ เมือง Chandigarh ระยะทาง 300-310 กม. ถนนลาดยางค่อนข้างดีเลียบแม่น้ำ Beas ผ่านเมือง Kullu ที่ระดับความสูง 1,280 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นเมืองสำคัญในหุบเขา Kullu Valley เป็นเมืองการค้าและเมืองใหญ่ก่อนถึง เมือง Mandi เป็นเมืองสำคัญของหิมาจัลประเทศและยังเป็นจุดพักกลางทางยอดนิยม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (มื้อที่ 30)
บ่าย ออกเดินทางกันต่อผ่านเมือง Bilaspur วิวแม่น้ำ Sutlej เป็นเมืองการค้าขนาดเล็ก อยู่ใกล้เขื่อน Bhakraและอ่างเก็บน้ำ ถนนลาดยางดี รถเริ่มหนาแน่นไปจนถึง เมือง Chandigarh เป็นเมืองและเขตปกครองพิเศษในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงร่วมของรัฐ Punjabและ Haryana เป็นเมืองที่ทันสมัยของอิเดียและมีการวางผังเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ เป็นศูนย์กลางราชการ การศึกษา การท่องเที่ยวและการคมนาคม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ (มื้อที่ 31) หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรม HOTEL RAMADA ENCORE BY WYNDHAM CHANDIGARH ZIRAKPUR หรือเทียบเท่า
วันที่สิบเอ็ด CHANDIGARH เดลี กรุงเทพฯ
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินจันดิการ์ พร้อม บริการอาหารเช้าแบบกล่อง (มื้อที่ 32) เพื่อความสะดวกในการเดินทาง จากนั้นเช็กอินที่เค้าเตอร์สายการบินแอร์อินเดีย
08.45 น. เหินฟ้าสู่เมืองเดลี ด้วยเที่ยวบินที่ AI 1862 ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 5นาที
10.10 น. ถึง สนามบินเดลี รอรับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเช็กอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ เค้าเตอร์สายการบินไทย ผ่านพิธีการ ตม. และ**อิสระรับประทานอาหารกลางวันในสนามบิน**
14.30 น. เหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ AI 2304 ใช้เวลาบินประมาณ 4h25m บนเครื่องมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ
22.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ
-โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมและความปลอดภัย
-ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่แจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้อาจมีสาเหตุ เช่น ช่วงเทศกาล, ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นตามภาวะตลาดโลก
อัตราค่าบริการนี้รวม
-ค่าโรงแรมที่พักระดับ มาตรฐาน จำนวน 9 คืน พักห้องละ 2 ท่าน
-ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุ / น้ำดื่ม 2 ขวด /วัน
-ค่ารถนำเที่ยวตามโปรแกรม รถ Tempo Traveller
-ไกด์ท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษ
-ค่าประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
-หัวหน้าทัวร์ไทย
-ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ ตามรายการ
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
Xค่าตั๋วเครื่องไป-กลับระหว่างประเทศสายการบินแอร์อินเดีย ชั้นประหยัด ฝากซื้อได้ไม่ชาร์จเพิ่ม
Xค่าตั๋วเครื่องไป-กลับภายในประเทศ ชั้นประหยัด ฝากซื้อได้ไม่ชาร์จเพิ่ม
Xค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
Xค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด เป็นต้น
Xค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ามินิบาร์ ค่าเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
Xค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถ,พนักงานบริการ 60USD/ลูกค้าหนึ่งท่าน ส่วนหัวหน้าทัวร์ไทย 1,100 บาท / ลูกค้าหนึ่งท่าน
Xค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)
Xค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
Xค่าพักเดี่ยวเพิ่ม
Xค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยว ประเทศอินเดียสำหรับหนังสือเดินทางไทย ยื่น E-Visa ในกรณีที่มีการยกเลิกฟรีวีซ่า
Xค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
Xค่าน้ำหนักเกินพิกัดที่สายการบินกำหนด
Xค่ากิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ ฯลฯ