|
|
|
|
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
|
|
|
|
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
|
|
|
|
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
โรงแรมที่พักบาหลี |
คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่
ที่พัก ที่พักในบาหลีมีให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายราคา ซึ่งจะสร้างความประทับใจที่แตกต่างกันดังนี้
ลอสเม็น(Losmen)
เป็นที่พักขนาดเล็ก ราคาประหยัด คล้ายกับโฮมสเตย์ แต่ลอสเม็นมักไม่ได้อยู่ในอาคารเดียวกับเจ้าของบ้าน แต่เป็นบ้านเล็กๆ อีกหลังในบริเวณบ้านใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะแบบบ้านของบาหลีที่มีหลายๆ หลังอยู่ในบริเวณรั้วเดียวกันดังนั้นจึงสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวกว่า และได้รับการบริการที่เป็นกันเองมากกว่าโรงแรมมักมีลักษณะห้องพักคล้ายบังกะโลที่สร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติและไม่ติดแอร์ เพื่อให้ได้สูดอากาศธรรมชาติ แต่หากชอบนอนห้องแอร์ก็มีบริการด้วยเช่นกัน เมื่อก่อนลอสเม็นอาจหมายถึงห้องพักธรรมดาเล็กๆ ถูกๆ แต่ปัจจุบันลอสเม็น หมายถึงที่พักสไตล์เบดแอนด์เบรกฟาสต์ ที่มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพงมากได้ ขึ้นอยู่กับขนาดห้องพักและการตกแต่ง
โรงแรม
โรงแรมที่บาหลีมีหลายระดับราคา (ต่อห้องต่อคืน) ให้เลือกพัก โดยส่วนใหญ่จะตั้งราคาเป็นเหรียญสหรัฐฯ มีรายละเอียดดังนี้คือ
โรงแรมราคาถูกในเมือง ราคาราว 10 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับคนท้องถิ่นผู้ที่เดินทางมาพักชั่วคราว นักท่องเที่ยวมักไม่นิยมพักแบบนี้เนื่องจากไม่ค่อยมีกลิ่นอายของธรรมชาติ และส่วนมากตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง อีกแบบหนึ่งก็คือโอสเตลที่เป็นห้องแคบๆ แค่พอนอนได้ รูปแบบคล้ายโรงแรมของแบ็กแพ็กเกอร์ มีอยู่มากในเขตกูต้า
โรงแรมระดับกลาง ราคาตั้งแต่ 15-35 เหรียญสหรัฐ จนถึง 35-60 เหรียญสหรัฐ ที่พักส่วนมากมีลักษณะเป็นกระท่อมหรือบังกะโลเป็นหลังๆ มีทั้งติดแอร์และไม่ติดแอร์ มีน้ำอุ่นบริการบางที่จะรวมอาหารเช้าให้ด้วย
โรงงแรมระดับดี ราคาตั้งแต่ 60-100 เหรียญสหรัฐ เป็นโรงแรมระดับมาตรฐานสากล ห้องพักจะติดแอร์ และมีความสะดวกสบายครบถ้วนพอประมาณ มักอยู่ในย่านท่องเที่ยวที่สำคัญ
โรงแรมหรู ราคาตั้งแต่ 100 เหรียญสหรัฐขึ้นไป เป็นโรงแรมที่มีเครือระดับโลก ให้อย่างบริการดีเยี่ยม เครื่องอำนวยความสะดวกครบครันแวดล้อมด้วยความงามของธรรมชาติ มีบริการสปา สระว่ายน้ำ ใกล้สนามกอล์ฟ ฯลฯ
โรงแรมบูติก กำลังเป็นที่นิยมมากในบาหลี มีลักษณะเป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่ทว่าหรูหรามากเหล่าดาราและคนดังจากทั่วโลกมักจะมาพักผ่อนตามโรงแรมแบบนี้ ตัวโรงแรมออกแบบสวยงามและมีเอกลักษณ์ มีบริการนวดในศาลากลางนาข้าว ห้องพักแต่ละห้องก็จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ฯลฯ ราคาที่พักตั้งแต่ 300 เหรียญสหรัฐขึ้นไปมักจะอยู่บริเวณที่ไม่พลุกพล่านนัก ถ้าอยู่ติดทะเลอาจจะมีหาดส่วนตัวด้วย
แหล่งที่พัก
แหล่งที่พักอาจเป็นตัวกำหนดราคาและกิจกรรมของการท่องเที่ยวบาหลีด้วยเช่นกัน มีแหล่งที่พักอยู่หลายแหล่งในบาหลีดังนี้
นูซาดูอา , ตันจุงเบอนัว และบูกิต คือ บริเวณแหลมที่ติ่งออกมาทางใต้สุดของเกาะบาหลีห่างจากสนามบินราว 12 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ตระดับนานาชาติสี่ถึงห้าดาวเป็นย่านที่พัฒนาให้เป็นมาตรฐานสากล จึงไม่ค่อยมีกลิ่นอายของบาหลีแท้ๆ บริเวณนี้น้ำทะเลจะค่อนข้างสงบ และมีสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม ในช่วง 2-3 ปีหลัง มีการสร้างที่พักแบบวิลล่าหรูหลายแห่งบนเนินเข้าบูกิตซึ่งอากาศค่อนข้างเย็นและวิวสวย
ตันจุงเบอนัว มีท่าเรือสำหรับเรือล่องทะเลบาหลี และไปเที่ยวเกาะใกล้เคียง ในเขตนี้ไม่มีกิจกรรมยามค่ำคืน ยกเว้นในบาร์ตามโรงแรมชั้นหนึ่ง
หาดจิมบารัน ชายหาดที่สวยงามซึ่งยังไม่พลุกพล่านนัก เป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูขนาดกลาง เหมาะสำหรับผู้รักแสงแดดและกิจกรรมทางน้ำ ช่วงเย็นจะมีผู้นิยมอาหารทะเลมานั่งกิน อาหารอร่อยๆ ตามร้านที่ตั้งอยู่ริมทะเล พร้อมดูพระอาทิตย์ตกดินไปด้วย
ดูบัน ชายหาดริมฝั่งตะวันตกของเกาะเหนือสนามบินขึ้นมาเล็กน้อยก่อนถึงหาดกูต้าเป็นย่านที่ตั้งของโรงแรมมากมายหลายระดับ รวมทั้งร้านอาหารมากมาย สามารถเดินไปกูต้าได้ไม่ไกลนัก ขณะที่ชายหาดยังไม่พลุกพล่านจนเกินไป
กูต้าและเลเกียน เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมในบาหลี ชายหาดและท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทั้งคนเที่ยวและคนท้องถิ่นที่มาขายของ มีโรงแรมและที่พักหลายระดับให้เลือกมีภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของ รวมทั้งคลับ ดิสโก้ และบาร์ จึงเหมือนว่าจะไม่เคยหลับก็ว่าได้
เชื่อต่อไปทางด้านเหนือของกูต้าคือหาดเลเกียน ที่ปัจจุบันพัฒนาและพลุกพล่านไม่แพ้กูต้าเป็นศูนย์กลางกิจกรรมยามค่ำคืนของบาหลี มีการขายของริมทางกันจนดึกดื่น พร้อมๆ กับที่บาร์และคลับเปิดให้บริการอยู่ ทั้งสองย่านนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบกิจกรรมสนุกสนานหรือช็อปปิ้งทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่น่าจะเหมาะกับครอบครัว หรือ คู่ฮันนีมูน หรือคนที่ต้องการความสงบและพักผ่อนจริงๆ
เซิมนยัก , บาตูเบลิก , ชางกู และทานาลอต
อยู่ถัดไปจากเลเกียนเล็กน้อยแต่ยังคงสงบอยู่พอสมควร เป็นที่ตั้งของโรงแรมในแบบโรงแรมบูติกและวิลล่า รวมทั้งร้านอาหารชั้นดีและร้านขายของตกแต่งบ้านและศิลปหัตถกรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนสบายๆ แบบไม่ไกลแสงสีจนเกินไป
หาดซานูร์ อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นย่านโรงแรมย่านแรกของบาหลี แต่ปัจจุบันเสื่อมความนิยมไปมาก จึงค่อนข้างเงียบและราคาที่พักไม่แพงนัก
อูบุด บริเวณตอนกลางของเกาะ เป็นย่านศิลปะและวัฒนธรรม ในสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติและนาข้าว ตัวย่านอูบุดเองค่อนข้างพลุกพล่านด้วยร้านขายของจำพวกงานศิลปะและของที่ระลึก ช่วงกลางวันจะมีนักท่องเที่ยวมากันมาก แต่จะมีคนเพียงส่วนน้อยที่พักค้างคืนที่อูบุดดังนยั้นช่วงเย็นและช่วงเช้าจึงค่อนข้างสงบ ในยามกลางคืนจะมีการแสดงต่างๆ หมุนเวียนให้เลือกชมอีกด้วย
ที่พักในย่านนี้ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก ตั้งแต่ห้องพักในบ้านไปจนถึงโรงแรมบูติกหรูระยับราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตสายันที่อยู่เลยอูบุดไปเล็กน้อย
ชานดิดาสา ชายทะเลทางตะวันออกของเกาะบาหลี เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ต้องการเพียงนอนอาบแดดและพักเงียบๆ โรงแรมที่พักมักอยู่ระดับกลางๆ
โลวิน่า อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ผู้ที่จะมาดูโลมามักมาพักกันที่นี่ แต่เนื่องจากชายหาดเป็นสีดำจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอื่นๆ เท่าไรนัก
การเดินทางสู่บาหลี
ทางอากาศ
มีเที่ยวบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯสู่สนามบินงูราห์รายของบาหบลีคือสายการบินไทยและสายการบินแอร์เอเชีย นอกจากนั้นยังสามารถใช้สิงคโปร์แอร์ไลน์ได้โดยจะต้องเปลี่ยนเครื่องบินที่สิงคโปร์ หรือ ใช้สายการบินการูด้าแอร์ไลน์ของอินโดนีเซีย สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารและบริษันำเที่ยวชั้นนำทั่วไป
เมื่อเดินทางถึงสนามบินแล้ว หากจองที่พักโรงแรมชั้นหนึ่งระดับห้าดาวอาจมีบริการรถรับส่ง ซึ่งควรระบุความประสงค์ไปตั้งแต่ตอนจอง มิฉะนั้นก็อาจใช้บริการแท็กซี่ที่มีเคาน์เตอร์ให้บิรการอยู่
ในขาเดินทางออกจะต้องจ่ายภาษาสนามบินด้วยคนละ 150,000 รูเปียห์
ทางเรือ
หากเป็นการเดินทางจากเกาะชวา จะมีเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากให้บริการตลอดวัน โดยสามารถซื้อตั๋วที่รวมการเดินทางโดยรถบวกเรือจากเมืองต่างๆ ในชวาได้ นอกจากนั้นยังมีเรือบริการระหว่างบาหลีกับล็อมบ็อกด้วย
จากเคตาปัง(ชวา) มาถึงท่ากิลิมานุกของบาหลี มีเรือออกทุก 20 นาที ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาที ค่าโดยสารราวคนละ 3.000 รูปเปียห์
การเดินทางภายในบาหลี
รถประจำทาง
บีโม (Bemos) คือรถประจำทางขนาดเล็กแบบรถตู้ ขนาดที่นั่งประมาณ 10 คน (แต่มักอัดผู้โดยสารเข้าไปมากกว่านั้นและไม่มีเครื่องปรับอากาศ) จะให้บริการในเส้นทางระหว่างเมืองใกล้ๆ ส่วนรถประจำทางขนาดใหญ่หรือรถบัสขะให้บริการระยะทางไกลๆ เช่น จากเดนปาซาร์ไปยังสิงคราชา (Singaraja) และรถบัสจะมีจุดจอดแวะรับส่งคนน้อยกว่ารถบีโม ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางเร็วขึ้น
สามารถขึ้นรถบีโม่ได้ที่สถานีรถประจำเมืองหรือรอที่ป้ายรถ ค่าโดยสารจ่ายกับคนขับ ในบางครั้งอาจจะต้องมีการต่อรองราคากันก่อนที่จะขึ้นรถ เนื่องจากราคาที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายมักแพงกว่าราคาของชาวบาหลี
ราคาค่าโดยสารสำหรับบีโม่พอจะคาดเดาราคาง่ายๆ คือ ระยะใกล้จ่ายคนละ 2,000 รูปเปียห์ ระยะปานกลางคนละ 4,000 รูเปียห์ และระยะไกล 8,000 รูเปียห์ เป็นต้น (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)
ชัตเติลบัส คือ รถบัสที่วิ่งประจำเส้นทางสำคัญๆ โดยไม่จอดแวะรับระหว่างทาง เช่น กูต้า ไปอูบุด หรือ เดนบาซาร์ไปสนามบิน Perama เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับการให้บริการด้านรถชัตเติลบัสมาเป็นเวลานาน อัตราค่าบิรการจะสูงกว่ารถประจำทางประมาณ 3-4 เท่า แต่ก็ได้รับความสะดวกสบายมากกว่าหลายเท่าเช่นกันต้องสำรองที่นั่งก่อนการเดินทางได้ตามบริษัทท่องเที่ยวในเมืองนั้นๆ
แท็กซี่
ที่เดนปาซาร์หรือกูต้า จะมีรถแท็กซี่มิเตอร์สีฟ้า หรือ สีขาวให้บริการไปยังจุดต่างๆ โดยเฉพาะโรงแรมที่พักระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 2,500 รูเปียห์ บวกอีก 1,000 รูเปียห์ต่อกิโลเมตร
สำหรับผู้ที่เพิ่งจะลงจากเครื่องบินและต้องการใช้บริการแท็กซี่ จะมีเคาน์เตอร์แท็กซี่ราคามาตรฐานให้บริการอยู่ (เที่ยวละ 50,000 60,000 รูเปียห์) ขณะเดียวกันก็จะพบแท็กซี่ผีคอยเรียกลูกค้าด้วย ซึ่งหากจะเลือกใช้บริการแบบหลังควรพิจารณาและตกลงราคาให้ดีเสียก่อนจะปล่อยให้เขาฉวยกระเป๋าของเราไป
การจ้างเหมาแท็กซี่ ส่วนบุคคลให้พาเที่ยวทั้งวันนั้นทำได้ แต่ต้องเจรจาตกลงราคาและต่อรองราคาให้ดีก่อนเสมอ โดยทั่วไปราคาจะอยู่ในราวชั่วโมงละ 90,000-100,000 รูเปียห์ ถ้าเหมาวันจะตกราว 250,000-300,000 รูเปียห์ต่อวัน
รถม้า
รถม้า หรือ Dokar เป็ยบริการพื้นเมืองเนื่องจากเป็นพาหนะดั้งเดิมของชาวบาหลีมาก่อนโดยม้าจะถูกประดับตกแต่งด้วยหนังและเครื่องประดับเงินซึ่งจะส่งเสียงเวลาเดิน มีให้บริการอยู่ในแถบกูต้า ก่อนใช้บริการควรต่อรองราคาให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มที่ 1,000 รูเปียห์
รถเช่า
รถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าได้ตามบริษัทให้เช่ารถ เช่น AVIS และ HERTS หรือ บริษัทรถเช่าท้องถิ่น ค่าเช่าจะมี 2 อัตรา คือ 800 CC ราคาประมาณ 70,000 รูเปียห์ต่อวัน ส่วนรถขนาด 1,600 cc ราคาประมาณ 150,000 200,000 รูเปียห์ต่อวัน ไม่รวมน้ำมันก่อนตกลงราคาควรแน่ใจว่ามีประกันคุ้มครอง
การขับขี่รถยนต์ในบาหลีกำหนดความเร็วไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และต้องมีใบขับขี่สากล อย่างไรก็ดี การขับขี่รถในบาหลีต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะถนนค่อนข้างแคบและเล็ก โดยเฉพาะในเขตตอนกลางเกาะซึ่งเป็นภูเขาสูง นอกจากนั้นมักจะเจอขบวนแห่ต่างๆ บนถนนเสมอ ซึ่งต้องใจเย็น ไม่แซง และไม่บีบแตรใส่
รถมอเตอร์ไซค์และจักรยาน ผู้เช่าต้องมีใบขับขี่สากลเช่นกัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 รูเปียห์ต่อวัน ขณะขับขี่ ทั้งคนขับและคนซ้อนต้องสวมหมวกกันกันน็อก ส่วนจักรยานค่าเช่าต่อวันอยู่ที่ประมาณ 5,000 รูเปียห์
นอกจากนี้ยังมีการเช่าเหมาบริการ คือทางบริษัทเช่ารถจะมีคนขับให้พร้อม ซึ่งหากเดินทางมากกว่า 1 วัน ผู้เช่าต้องจ่ายค่าอาหารและค่าที่พักให้คนขับด้วย ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 20,000 รูเปียห์ต่อวัน ไม่รวมค่าจ้างคนขับ
ช้อปปิ้งที่บาหลี
บาหลีเป็นสวรรค์ของนักช้อปปิ้ง มีสถานที่สำหรับนักช้อปปิ้งมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่รับบัตรเครดิต ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าปลอดภาษี และตลาด รวมทั้งตลาดนัดในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
|
|
|
|
ผ้าบาติก |
ผ้าบาติก |
งานศิลปะบาหลี |
ของฝาก duty บาหลี |
|
|
|
|
ช็อปปิ้งบาหลี |
ผลไม้ |
ตลาดสุขะวตี |
ตลาดสุขะวตี |
|
|
|
|
เดนปาซาร์เซ้นเตอร์ |
เดนปาซาร์เซ้นเตอร์ |
เดนปาซาร์เซ้นเตอร์ |
เดนปาซาร์เซ้นเตอร์ |
|
|
|
|
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
|
|
|
|
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
ของฝากบาหลี |
คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่
สินค้าน่าซื้อ
ของเก่า
นักสะสมของเก่าที่นิยมวัตถุโบราณสามารถมาหาได้ที่บาหลีนี้ แต่อย่างไรก็ดีห้ามนำวัตถุโบราณที่มีอายุมากกว่า 50 ปีออกนอกประเทศ มิฉะนั้นจะผิดกฏหมาย จึงมีการทำของเก่าเลียนแบบจำหน่ายในราคาย่อมเยา
ภาพวาด
ภาพวาดของชาวบาหลีมีความสวยงามไม่เหมือนใคร ผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดสวยๆ มักไม่พลาดที่จะหอบหิ้วงานฝีมือของจิตรกรชาวบาหลีกลับมาตกแต่งบ้านด้วย
เครื่องเซรามิก
ไม่ว่าจะเป็นถ้วย จาน ชาม พาชนะอื่นๆ หรือ ของประดับตกแต่งบ้านซึ่งทำจากเซรามิกที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยชาวบาหลีนั้นถูกใจนักท่องเที่ยวไม่แพ้ของอย่างอื่นเช่นกัน
เครื่องประดับ
การออกแบบเครื่องประดับของชาวบาหลีมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงเป็นการรวมเอาฝีมือแบบดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับความทันสมัยในปัจจุบัน ทำให้เครื่องเงิน เครื่องทอง หรือ เครื่องประดับอื่นๆ มีความงดงามลงตัว
หน้ากาก
ของฝากที่ขึ้นชื่อของบาหลี ที่นักท่องเทื่ยวหอบหิ้วได้ไม่ยากนักและเป็นที่นิยมอย่างมาก ใช้ไม้แกะสลักเป็นหน้าตัวละครต่างๆ หลากหลายอารมณ์และสีสันสะดุดตา
งานหินแกะสลักและงานไม้แกะสลัก
เป็นงานศิลปะที่ขึ้นชื่อเช่นกัน สำหรับผู้ที่นิยมศิลปะจากการแกะสลัก อาจนำมาตกแต่งบ้านหรืออาคารสถานที่ต่างๆ ได้เช่นกัน แต่จะลำบากตรงมีน้ำหนักมาก แต่ก็มีงานไม้และหินแกะสลักขนาดเล็ก สำหรับเป็นที่ระลึกให้ซื้อติดไม้ติดมือด้วย
ผ้า
ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าผ้าของบาหลีโดดเด่นด้วยความหลากสีสัน หลายเนื้อผ้า และการทอที่ปราณีต รวมทั้งมีลวดลายเฉพาะจึงเป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวไม่แพ้ของอย่างอื่นเลย
นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สปาอะโรมาเทอราปี กระเป๋าถักสาน ตะกร้า และสิ้นค้าพื้นเมืองมากมาย แต่อย่างไรก็ตามในการซื้อของที่นี่นั้น การต่อรองราคาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากราคาที่ตั้งสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นจะสูงมาก หากเป็นนักต่อรองราคาแล้ว ก็จะสามารถซื้อของได้อย่างสบายใจ
ย่านช้อปปิ้ง
เดนปาซาร์ มีตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่จนถึงตลาด ดังนั้นจึงสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศ อาหารแห้ง เสื้อผ้า ไปจนถึงทอง หากไปที่ถนนสุลาเวสี (Jalan Sulawesi) ก็จะเป็นร้านขายผ้าตลอดทั้งแนว ถ้าต้องการซื้อสินค้าที่ทันสมัยควรไปที่รามายณะบาหลีมอลล์ ส่วนตลาดขายของสารพัดชนิดคือตลาดกุมบาซารี (Kumbasari)
กูต้า-เลเกียน-เซมินยัก สองฝั่งถนนบนชายหาดกูต้าเต็มไปด้วยร้านขายของที่มีสินค้ามากมายวางขายให้นักท่องเที่ยว เช่น ผ้าโสร่ง ผ้าบาติก เครื่องประดับ งานศิลปะ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องหนัง รวมทั้งรองเท้าที่ตัดเย็บด้วยมือ หรือ เลือกซื้องานศิลปะและงานแกะสลักต่างๆ เป็นย่านที่ต้องต่อรองราคาสินค้าและควรตรวจสอบสินค้าให้ดีก่อนซื้อเสมอ
นูซาดูอา มีตลาดเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ทางเข้าเขตนี้ มีร้านขายสินค้าพื้นเมืองต่างไ มากมาย มีร้านเครื่องหนัง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าที่รวมสินค้าจากทุกมุมของบาหลีมาอยู่ในที่แห่งเดียวเมื่อเข้าไปแล้วจะเป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ แกลเลอรี่ นูซาดูอาซึ่งมีร้านขายสินค้าโบราณ งานแกะสลักเซรามิก ผ้าพื้นเมือง ร้านอาหาร แบะซุปเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากย่านนี้อยู่ใกล้โรงแรมชั้นหนึ่งส่วนใหญ่ จึงมักมีของคุณภาพดีๆ ให้เลือกสรรในราคาที่แพงกว่าย่านอื่นๆ
ซานูร์ นักสะสมงานศิลปะไม่ควรพลาดย่านนี้ เพราะสามารถเลือกซื้อภาพสวยๆ หรือ เฟอร์นิเจอร์ที่ฝีมือปราณีตงดงามได้ บริเวณถนนช้อปปิ้งหลักจะค่อนข้างเงียบกว่าที่กูต้า ซึ่งนอกจากจะมีร้านขายของแล้ว บริเวณนี้ยังมีร้านอาหารที่น่านั่งอีกหลายร้านด้วย
บาตูบุหลัน ย่านนี้มีชื่อเสียงด้านงานแกะสลักหิน ในสมัยก่อนงานแกะสลักหินจะทำขึ้นเพื่อใช้ในวัดและพระราชวังเท่านั้น แต่ปัจจุบันทำอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกด้วย ซึ่งสามารถสั่งทำตามแบบที่ต้องการได้
เชลุก หมู่บ้านช่างเงินและทอง ซึ่งจะมีการออกแบบที่สวยงามต่างๆ กันไป โดยเฉพาะเครื่องเงินที่มีความงามโดดเด่นกว่าที่อื่น เนื่องจากเป็นการออกแบบผสมผสานกันระหว่างแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย
สุขะวาตี เป็นตลาดรวมที่มีทั้งของเก่าและศิลปะสมัยใหม่ขาย ไม่ว่าจะเป็นตะกร้าสานแบบโบราณ ผ้าปราดาที่ใช้ทองวาดลงบนผืนผ้าซึ่งชาวบาหลีใช้ในงานพิธี ใช้ตัดชุดเต้นระบำและชุดใส่แต่งงาน ฯลฯ ราคาของสินค้าต่างๆที่นี่ค่อนข้างย่อมเยาสมเหตุสมผล แต่ก็ต้องต่อรองราคาเช่นกัน
มาส สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานไม้แกะสลักต้องไปที่หมู่บ้านนี้ เนื่องจากมีช่างแกะสลักที่ชำนาญอยู่ที่นี่มากมายเรียงรายอยู่สองฝากถนน
อูบุด เป็นศูนย์กลางของงานศิลปะของบาหลี แบบที่ใครได้มาเยือนเกาะแห่งนี้แล้วต้องไม่พลาดการมาที่นี่ จากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ทำงานศิลปะ จนกระทั่งกลายเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีแกลเลอรี่ที่จัดแสดงงานศิลปะมากมาย เช่น Neka , Agung Rai , Rudana เป็นต้น
ที่บริเวณถนนหลักของหมู่บ้านมีร้านค้าที่ชายภาพวาด ผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องประดับ วัตถุโบราณ และงานฝีมือต่างๆ ที่คัดสรรมาแล้ว ดังนั้นตลาดที่นี่จีงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปตามแหล่งช้อปปิ้งอื่นๆ เพราะที่นี่ที่เดียวก็สามารถหาซื้อทุกอย่างที่ต้องการ แต่ราคาจะค่อนข้างสูงกว่าการไปที่แหล่งผลิต
เกียนยาร์ เป็นที่ที่ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องผ้าอย่างมาก เนื่องจากมีโรงงานทอผ้าอยู่หลายแห่งนอกจากจะได้เลือกซื้อผ้าแล้ว ก็ยังมีโอกาสชมวิธีการทอผ้าด้วย
เทงกะนัน เป็นเพียงหมู่บ้านเดียวในบาหลีซึ่งมีการทอผ้าเกริงซิง ที่ต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก และมีกรรมวิธีต่างๆ ที่ซับซ้อนจึงทำให้ราคาค่อนข้างสูง นอกจากนั้นยังมีตะกร้าสานลายละเอียด เป็นเอกลักษณ์พิเศษ
กลุงกุง สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกชมเลือกซื้อสินค้าประเภทวัตถุโบราณ เช่น กริช โสร่ง เป็นต้น เนื่องจากที่นี่จะมีร้านค้าวัตถุโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของบาหลี รวมไปถึงทอง 22 กะรัตซึ่งออกแบบมาอย่างงดงามด้วย ที่หมู่บ้านติฮิงกัน(Tihingan) ยังเป็นศูนย์กลางการทำฆ้องที่ใช้เล่นในวงดนตรีแบบดั้งเดิมของบาหลี
โบนา หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านซึ่งมีการปลูกไผ่จำนวนมาก ดังนั้นที่นี่จีงเป็นแหล่งผลิกสินค้าที่ทำงานไผ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน หรือ เสื่อ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากใบไผ่ซึ่งนำมาทำเป็นหมวก กระเป๋า และรองเท้า
เบดูกัล เนื่องจากเป็นบริเวณที่เป็นภูเขาอากาศจึงเย็นสบายกว่าเขตอื่นๆ บริเวณนี้จึงมีการทำไร่ทำสวน ดังนั้นที่ตลาดจึงจะมีผลไม้เมืองหนาวสดๆ วางขายเป็นจำนวนมาก ในราคาย่อมเยา
ห้างสรรพสินค้า ที่ขึ้นชื่อคือห้างมาตาฮารี มีสินค้าขายมากมายตามแบบห้างสรรพสินค้าทั่วไป รวมทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่จะหาซื้อเครื่องดื่มและผลไม้ได้ในราคายุติธรรม ห้างมาตาฮารีมีหลายสาขาทั้งที่กูต้า เดนปาซาร์ นูซาดูอา ฯลฯ
ร้านสินค้าปลอดภาษี มีอยู่ที่กูต้า ซานูร์ และนูซาดูอา กับที่สนามบิน มีสินค้ามากมาย รวมทั้งของที่ระลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความวุ่นวายและเบื่อกับการต่อรองราคาสินค้ากับพ่อค้าแม่ค้า แต่ราคาสินค้าจะสูงกว่าตามตลาดข้างนอกมาก
ตลาดบริเวณหน้าสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที้ยวหลายๆ แห่ง เช่น ทานาลอต และเทมปักเซริง จะมีแผงขายของที่ระลึกอยู่มากมาย ซึ่งมักจะต่อรองราคากันได้อย่างสนุกสนาน แต่ควรระวังตรวจตราคุณภาพสินค้าให้ดีด้วย
แหล่งข้อมูลจาก
- หนังสือคู่มือนักเดินทางฉบับพกพา บาหลี หนังสือในเครือ เที่ยวรอบโลก
|