|
|
|
|
หุบเขาโพคารา |
เมืองโพคารา |
เมืองโพคารา |
เมืองโพคารา |
|
|
|
|
หุบเขาโพคารา |
หุบเขาโพคารา |
ยอดเขาหางปลา |
หุบเขาโพคารา |
คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่ รูปโดย www.tripdeedee.com
หุบเขาโปขระ โภครา หรือโพคารา (Pokhara Valley) เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 827 เมตร และเป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุด เนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเนปาลในการเริ่มต้นเดินทางผจญภัยและล่องแพมีทั้งทะเลสาบพีวาและยอดเขามัจฉาปูชเรที่สูงเด่นตระหง่าน (6,977 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล) เป็นฉากหลังของหุบเขาแห่งนี้ ก่อเกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและมีมนต์ขลัง หุบเขาที่อยู่รายล้อมโปขระเปรียบเสมือนบ้านของหมู่ไม้ที่ขึ้นอยู่ขนัดแน่น มีแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ทะเลสาบใสแจ๋ว และทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยที่มีชื่อเสียงของโลก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย โดยเฉพาะที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินขึ้นเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งก็คือเอเวอรเรสต์นั่นเอง
เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร โดยสามารถไปได้ทั้งทางอากาศและทางรถยนต์จากกาฐมาณฑุและเมืองไภราพ (Bhairawa) ทั้งยังเป็นเมืองชายแดนติดกับประเทศอินเดียอีกด้วย โปขระเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 รองจากกาฐมาณฑุจากที่นี่จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเธาละคีรี (Dhaulagiri) มนะสลู (Manaslu) มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) และยอดเขาอรรณาปุรณะ (Annapurana) ทั้ง 5 ยอด
|
คลิปวีดีโอ แนวหิมาลัยจากจุดชมวิวนาการ์ก็อต 1 |
|
คลิปวีดีโอ แนวหิมาลัยจากจุดชมวิวนาการ์ก็อต 2 |
|
|
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
|
|
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
|
|
แนวเขาหิมาลัย ถูกใจนักถ่ายภาพ |
แนวเขาหิมาลัย ถูกใจนักถ่ายภาพ |
|
|
แนวเขาหิมาลัย ถูกใจนักถ่ายภาพ |
แนวเขาหิมาลัย ถูกใจนักถ่ายภาพ |
|
|
ยอดเขาอันณาปุรณะ (Annapurana) |
แนวเขาหิมาลัย |
|
|
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
แนวเขาหิมาลัย |
|
|
แนวเขาหิมาลัย |
มัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) |
|
คลิปวีดีโอ แนวหิมาลัยระหว่างทางไปหมู่บ้านนอนันดา |
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ภาพความงามของทะเลสาบพีวาสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเรที่มีรูปร่างคล้ายหางปลานั้นเป็นภาพที่มีมนต์ขลังให้นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนสักครั้ง ตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งมีสถูปสีขาวชื่อบาลาฮีลอยเด่นตัดกับพื้นน้ำสีเขียวมรกต
นอกจากนี้ก็ยังมีทะเลสาบสวยงามอื่นๆในหุบเขาโปขระที่นักท่องเที่ยวยังไม่เป็นที่รู้จัก เช่น ทะเลสาบรูปา (Rupa Taal) และทะเลสาบเบกนาส (Begnas Taal) ซึ่งอยู่ห่างจากโปขระไปทางทิศตะวันออก 15 กิโลเมตร หนทางค่อนข้างลำบาก แต่ก็มีนักผจญภัยที่นิยมการกางเต็นท์จะเดินทางหลบหนีความวุ่นวายจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นมาพักผ่อนกันที่นี่
|
คลิปวีดีโอ ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) |
|
|
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
|
|
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
|
|
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
|
คลิปวีดีโอ ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) |
|
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
|
ทะเลสาบพีวา (Phewa Lake) เมืองโพคารา |
น้ำตกเทวี (Devis Fall) น้ำตกที่ตั้งชื่อตามเด็กชายเทวีที่มาเสียชีวิตพร้อมคู่รัก ณ ที่แห่งนี้ น้ำตกแห่งนี้แปลกกว่าที่อื่นตรงที่ต้องชะโงกหน้าก้มลงไปดู เพราะเป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวจากลำธารลงสู่ช่องเขาเบื้องล่างลึกลงไปกว่า 100 เมตร นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความลึกที่สุด
|
|
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
|
|
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
|
|
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
|
|
น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
แสงสาดใกล้ น้ำตกเทวี (Devis Fall) |
รูปโดย www.tripdeedee.com
ถ้ำพระศิวะ (Shiva Cave) ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่อยู่ใต้ดิน ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปสลักของพระศิวะองค์ใหญ่ โดยทั่วไปจะมีโอกาสเข้าชมน้อยมาก เนื่องจากน้ำที่มักจะไหลท่วเข้ามาภายในศูนย์อพยพชาวทิเบต (Tibetan Refugee) Camps) จะได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวทิเบตซึ่งอพยพมาทางตอนเหนอของเนปาลในคราวที่จีนบุกกรุงซาลาและประกาศให้ทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีน พร้อมชมวิธีการทำพรมพื้นเมือง โดยศูนย์อพยพแห่งนี้ได้รับการดูแลจากองค์การยูเนสโก
กอร์ขา(Gorkha) กอร์ขาเป็นสถานที่ประสูติของกษัตริย์ปฤถวี นารายัณ ซาห์ มหาราช ผู้วางรากฐานประเทศเนปาลยุคใหม่ บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นยอดของเทือกเขาหิมาลัย คือ ที่ตั้งของปราสาทโบราณที่งดงามนามว่า กอร์ขา ดูร์บาร์ (Gorkha Durbar) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ราม ซาห์ (King Ram Shah) เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบเนปาลี ที่งดงาม และภายในบริเวณปราสาทนี้ยังมีวัดที่น่ามาเยี่ยมชมอีก 2 แห่ง ได้แก่ วัดโครัคนาค (Gorakhnath Temple) และวัดพระแม่กาลี (kali Temple)
สามารถไปถึงกอร์ขาได้โดยทางรถยนต์ ใช้เวลา 6 ชั่วโมง จากกรุงกาฐมาณฑุ และ 4 ชั่วโมงจากโปขระ
พันทิปุร์ (Bandipur) ตั้งอยู่บนสันเขาสูง 1,000 เมตร ในเขตตะนะหุ (Tanahu) ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปประมาณ 140 กิโลเมตร โดยลักษณะเด่นของเมืองพันทิปุร์คือทิวทัศน์สวยงามทางด้านตะวันออกของเมือง มีวัดพินทะพาสินี (Bindabasini Temple) ที่มีหลังคาเป็นองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของเทพธิดาทุรคา (Goddess Durga) ซึ่งเป็นเทพีที่ปกปักรักษาเมืองพันทิปุร์งานแกะสลักไม้ที่มีอยู่มากมาย และงานทองเหลืองที่เต็มไปด้วยรายละเอียดในการประดับตกแต่งวัดนี้จำลองแบบมาจากเจดีย์โบราณแห่งหุบเขากาฐมาณฑุ
วัดและสถานที่บูชาอื่นๆที่สำคัญที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น วัดมหาลักษมี (Mahalaxmi Temple) วัดที่มีงานไม้ที่วิจิตรตระการตา และวัดขัทคา เทวี (Khadga Devi Temple) ซึ่งจะมีผู้คนมาเยือนกันอย่างมากมายในช่วงเทศกาลทัศอิน เทศกาลทางศาสนาฮินดูที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจัดในช่วงเดือนตุลาคม
ตันหุ (Tanhu) หมู่บ้านตันหุแห่งนี้มีสิ่งสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย เช่น ธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ พื้นที่กสิกรรม และป่าเขาอีกทั้งยังสามารถชื่นชมความงามของยอดเขาเธาละคีรี อรรณาปุรณะ และมัจฉาปูชเรแห่งเทือกเขาหิมาลัยได้ด้วย
ลุมพินี (Lumbini) ลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ โคตรมะ (Siddhartha Gautama) ซึ่งเป็นเจ้าชายในราชวงศ์ศากยะ (Shakya) และตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลาต่อมา ที่นี่นับเป็นสถานที่แสวงบุญของผู้คนทั่วโลกที่มีศรัทธาในพุทธศาสนา ถือได้ว่าเป็นสังเวชนียสถาน 1 ใน 4 แห่ง ที่เล่าพุทธศาสนิกชนต่างเดินทางมาเพื่อสักการบูชาสถานที่ประสูติของพระองค์
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัยของลุมพินีคือ สวนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกินบริเวณ 8 ตารางกิโลเมตร ส่วนวัดมายาเทวี (Mayadevi Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับนักแสวงบุญและเหล่านักโบราณคดีทั้งหลาย โดยจะพบรูปปั้นของพระนางมายาเทวี (พระมารดาของพระพุทธเจ้า) ขณะพระองค์กำลังให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะ ทางด้านตะวันตกของอารามของพระนางมายาเทวีนี้เป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ซึ่งก็คือเสาหินแห่งพระเจ้าอโศกแห่งอินเดีย ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโศกมหาราชเมื่อ 249 ปี ก่อนคริสตกาล เพื่อเฉลิมฉลองการแสวงบุญมาสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ทางตอนใต้ของเสาหินแห่งนี้มีสระศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อ ปุสกรรณณิ (Puskarni Pound) ซึ่งเป็นที่ที่พระนางมายาเทวี ได้ลงอาบน้ำก่อนที่จะให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะ
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ในบริเวณใกล้เคียงอีกมากมาย การไปลุมพินีสามารถไปได้โดยทางอากาศจากกรุงกาฐมาณฑุสู่ไภราวา ส่วนการเดินทางทางรถยนต์หรือรถทัวร์จากกรุงกาฐมาณฑุนั้นใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
มุกตินาถ และจอมสอม (Muktinath and Jomsom) เชื่อกันว่าความทุกข์หรือความเศร้าโศกของนักท่องเที่ยวจะมลายหายไปหากได้มาที่วัดมุกตินาถ (มุกติ หมายถึง การปรินิพพาน นาถ หมายถึง พระเจ้า) โดยวัดแห่งพระเจ้ามุกตินาถที่มีชื่อเสียงนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองมุสตัง (Mustang) และตั้งอยู่ห่างจากจอมสอมไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 18 กิโลเมตร โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,749 เมตร อารามชั้นหน้าเป็นวัดที่มีรูปทรงเจดีย์ซึ่งสร้างถวายแด่พระวิษณุตามกำแพงรอบๆมีน้ำพุ 108 แห่ง ที่มีน้ำศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งออกมา วัดนี้ตั้งอยู่บนแนวสันเขาสูงและสามารถไปเยี่ยมชมได้ในช่วงที่อากาศดี โดยมีทาง 2 ทาง ในการเข้าถึงมุกตินาถคือการโดยสารเครื่องบินจากกาฐมาณฑุแล้วต่อเครื่องที่โปขระสู่จอมสอม จากนั้นเดินเขาต่ออีก 7-8 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางภาคเพนิ (Kagbeni) หรือเดินเขาไปจากโปขระซึ่งใช้เวลา 7-8 วัน เชื่อกันว่าหลังจากได้ทำการแสวงบุญที่แหล่งธรรมทั้ง 4 ในอินเดียแล้วควรมาที่วัดแห่งนี้สักครั้งหนึ่ง วัดนี้นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสำหรับชาวฮินดูและชาวพุทธ วัดชวาลา ไม (Jwala Mai Temple) ที่อยู่ข้างเคียงนั้นมีน้ำพุธรรมชาติและไฟนิรันดร์ซึ่งคงอยู่ได้ด้วยก๊าซธรรมชาติใต้ดินจอมสอมนั้นถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในเขตเทือกเขาอรรณาปุรณะ
จอมสอม (Jomsom) เป็นเมืองในหุบเขาตั้งอยู่ในอาณาเขตที่ราบสูงทิเบต บนความสูง 2,713 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อยู่ห่างจากโปขระในระยะทางเดิน 7 วัน ไม่มีทางรถยนต์
สิรุพารี (Sirubari) สิรุพารีเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อิงแอบอยู่บนทางลาดด้านใต้ของสันเขาที่ระดับความสูง 1,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยความสูงและลักษณะเช่นนี้รับประกันถึงสภาพอากาศสบายๆตลอดปี เมืองศูนย์กลางสำคัญที่ใกล้ที่สุดคือโปขระ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 20 กิโลเมตร โดยในการเดินทางสำหรับหมู่คณะหนึ่งๆไปที่หมู่บ้านจากโปขระนั้นใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดเลยทีเดียวชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่คือชาวคุรุง (Gurung) หมู่บ้านนี้มีขนาดเล็กมีทางเดินเท้าที่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเป็นทางไปสู่ตัวบ้านที่สร้างขึ้นจากหินและหินชนวน ที่นี่มีทิวทัศน์ของหุบเขาที่ทอดยาวไปสู่เขตเตไร การเดินทางสั้นๆขึ้นไปเหนือหมู่บ้านนั้นจะได้พบกับความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งยากที่จะพบเห็นได้จากจุดชมวิวอื่นๆ ในเขตนี้ วัฒนธรรมและประเพณีที่ยั่งยืนของชาวคุรุงผสมผสานกับมิตรไมตรีของชาวบ้าน ทำให้สิรุพารีนั้นได้รับรางวัลชนะเลิศพาต้า โกลด์ อวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2544 ในสาขามรดกและวัฒนธรรม
ตานเสน (Tansen) ตั้งอยู่ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,343 เมตร ตานเสนเป็นรีสอร์ตฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเขตภาคตะวันตกของประเทศเนปาล เนื่องมาจากสภาพที่ตั้งและสภาพอากาศที่ดีมาก สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้จากยอดเขาเธาละคีรีทางด้านตะวันตก ตลอดไปจนถึงยอดเขาเคาริศังกระ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับการเดินทางจากโปขระใช้เวลา 7 ชั่วโมง โดยรถประจำทาง
ขัปตัท (Khaptad) อุทยานแห่งชาติขัปตัทครอบคลุมพื้นที่ 225 ตารางกิโลเมตรของทุ่งหญ้าและที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ขัปตัท บาบา (Khaptad Baba) ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาฮินดูได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปี บริเวณ 5 กิโลเมตรในอุทยานฯ นั้นได้มีการสงวนไว้เพื่อเป็นสถานที่ในการนั่งสมาธิ โดยมีข้อห้ามคือ ห้ามทำร้ายร่างกาย ดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่เด็ดขาดในอุทยานฯ นี้มีสัตว์ต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย อาทิ หมี เสือดาว ลิงหางยาว กวางขนาดเล็กที่ไม่มีเขา นกนานาพันธุ์ พืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาโรคและดอกไม้ป่าต่างๆ
|
|
หุบเขาโพคารา |
หุบเขาโพคารา |
|
|
หุบเขาโพคารา |
หุบเขาโพคารา |
|
|
หุบเขาโพคารา |
หุบเขาโพคารา |
|
|
หุบเขาโพคารา |
หุบเขาโพคารา |
|
ยอดเขาหางปลา หรือ ยอดเขามัชฉาปูชเร เมืองโพคารา |
คลิกเพื่อดูรูปขนาดใหญ่ รูปโดย www.tripdeedee.com
แหล่งข้อมูลจาก- หนังสือคู่มือนักเดินทางฉบับพกพา "เนปาล" หนังสือในเครือเที่ยวรอบโลก |