|
|
|
|
เปอร์กามัน |
โรงละครที่ชันที่สุดในโลก |
เปอร์กามัน |
เปอร์กามัน |
เปอร์กามัน (Pergamun)
ตั้งตระหง่านอยู่เหนือตัวเมือง 1,000 ฟุต ไม่ว่ามองจากมุมใดล้วนเป็นทัศนียภาพอันพิเศษสุดทั้งนั้น นครยุคเฮเลนิสติสติคอันยิ่งใหญ่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม การค้าและการแพทย์ ในอดีตเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของเมืองศูนย์กลางอารยธรรมเฮเลนิสติคในแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเอเฟซุส และอันติออค
แหล่งโบราณสถานแห่งนี้อยู่ในยุคราชวงศ์อัตทาลิดอันทรงอำนาจแห่งเปอร์กามัน ช่วงที่บ้านเมืองรุ่งเรืองที่สุดคือศตวรรษที่ 2 และ 3 ก่อนคริสตกาล นับเป็นเมืองแห่งศิลปินและนักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เมื่อครั้งที่ชาวอียิปต์เลิกส่งกระดาษปาปิรุสมาให้ กระดาษหนังก็ถูกคิดค้นขึ้นที่เมืองนี้
เอฟ.อี.ปีเตอร์ กล่าวเอาไว้ในหนังสือเรื่อง The Harvest of Hellenism เปอร์กามันไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าที่เฟื่องฟูของอนาโตเลียตะวันตกเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางภูมิปัญญาด้วย มีโรงเรียนการแพทย์และภาษาที่มีชื่อต้นตอของชื่อเสียงดังกล่าวคือ กาเลน (Galen : ค.ศ.129-199) ผู้ศึกษาวิชาการแพทย์และปรัชญาอยู่ที่บ้านเกิด ต่อมาจึงมีชื่อเสียงกลายเป็นแพทย์ที่เก่งที่สดในยุคโบราณ เขาเริ่มต้นจากการฝึกรักษากับนักสู้กลาดิเอเตอร์ ผลงานของเขาให้ความสำคัญกับโรงเรียนแพทย์ที่เปอร์กามัน และมีอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการทางการแพทย์ทั้งในซีกโลกตะวันออกและตะวันตก
- วิหารเอสเคลปิออน
ซากวิหารเอสเคลปิออนตั้งอยู่เบื้องล่างทางตะวันตกของตัวเมือง สร้างถวายเอสเคลปิออสเทพแห่งการแพทย์ วิหารแห่งนี้ไม่ใช่คลินิกธรรมดาแต่เป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกในประวัติศาสตร์ มีขั้นตอนการรักษาดังนี้เริ่มจากคนไข้ซึ่งอาจเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง หรือแม่ทัพนายกองชาวกรีกและโรมันที่ตรากตรำงานหนักมานานจะเดินทางมายังวิหาร ผู้ดูแลจะออกมาต้อนรับจากนั้นพาเดินมาตามทางศักดิ์สิทธิ์หรือเวียเตกตาซึ่งมีเสาคอลัมน์เรียงราย วิธีรักษามีให้เลือกมากมาย ทั้งการนวดและผัสสะบำบัดเพื่อช่วยผ่อนคลายความเมื่อยขบ นอกจากนี้ยังมีการรักษาแบบจิตบำบัดอีกด้วย
- อะโครโปลิส
อะโครโปลิสเป็นสถานที่ซึ่งถูกกล่าวขวัญถึงประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย หลังข้ามลำน้ำแบร์กามามาแล้วให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนที่ไต่ขึ้นเนินผ่าน (Agora/ตลาด) และวิหารเทพีดีมิเตอร์จนถึงลานจอดรถ
เดินจากประตูพระราชวังเข้ามาก็คือศูนย์กลางอารยกรรมในยุคเฮเลนิสติคอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง สิ่งแรกที่จะสะดุดตาคุณคือปั้นจั่นสีเหลืองสดสูงชะลูดทำให้รู้ได้ทันทีว่ากำลังมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ และจะเป็นเช่นนี้หากต่างประเทศยังให้การสนับสนุนต่อไป คุณอาจต้องการเดินชมตามใจชอบแต่ทางที่ดีควรเดินไปตามทางที่มีป้ายตั้งอยู่ เพราะตามป้ายจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยนำทางให้คุณเที่ยวไปรอบๆได้เป็นอย่างดี
ถ้าคุณผ่านประตูพระราชวังเข้ามาทางซ้ายมือจะพบกับวิหารเทพเจ้าซีอุส (Temple of Zeus) ตั้งอยู่แต่มีเหลืออยู่เพียงส่วนฐานเท่านั้น แท่นบูชาถูกโยกย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เปอร์กามันที่กรุงเบอร์ลินตะวันออกในศตวรรษที่ 19 และได้รับการบูรณะจนมีสภาพสมบูรณ์ดีดังเดิม
ถัดมาคือ วิหารเทพีอะธีนาโพลิอัส นิเคโฟรอส (Temple of Athena Polias Nikephoros) ที่เก่าแก่ที่สุดในเปอร์กามัน เป็นสถาปัตกรรมแบบดอริคสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 4 ถวายแด่อะธีนาเทพีผู้พิทักษ์เมือง ผู้นำมาซึ่งชัยชนะ
สถานที่ซึ่งน่าประทับใจมากคือหอสมุดแปร์กามูนในอดีตมีเอกสารเก็บรักษาอยู่กว่า 200,000 ม้วนกษัตริย์อัตทาลุสทรงเป็นผู้รวบรวมไว้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหอสมุดที่มีชื่อที่สุดแห่งหนึ่งในยุคนั้น ต่อมาถูกมาร์ค แอนโทนี่นำไปกำนัลให้พระนางคลีโอพัตราในวันแต่งงานที่เมืองอเล็กซานเดรีย และถูกทำลายไปพร้อมๆกับเอกสารในหอสมุดอเล็กซานเดรียในยุคต้นของคริสต์ศาสนา
วิหารที่อยู่ใกล้ๆกันคือวิหารจักรพรรดิทราจัน (Temple of Trajan) สร้างถวายจักรพรรดิทราจันที่ 1 ซึ่งได้รับยกย่องขึ้นเป็นเทพเจ้า เสร็จสมบูรณ์ในสมัยจักรพรรดิเฮเดรียนที่ 2 จากตัววิหารจะมองเห็นลักษณะการก่อตัวของภูมิประเทศแถบหุบเขาเบื้องล่างได้อย่างชัดเจนเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าครั้งหนึ่งน้ำเคยท่วมขึ้นมาถึงบริเวณฐานอะโครโปลิส
ย้อนกลับมาคุณจะพบโรงละครใหญ่ ขนาดมหึมามีทั้งหมด 80 แถว แบ่งเป็นสามชั้นจุผู้ชมได้เกือบ 10,000 คน ถ้าคุณต้องการทดสอบระบบเสียงของโรงละครลองให้เพื่อนสักคนไปยืนบนเวทีแล้วพูดกับคุณดู ในยุคแห่งวิทยาการอีเล็กทรอนิกส์ปัจจุบัน โรงละครที่ดีที่สุดในบรอดเวย์จะใช้ไมโครโฟนขยายเสียงของนักแสดง แต่คุณจะต้องทึ่งที่พบว่าโรงละครโบราณแห่งนี้ยังคงใช้งานได้เป็นอย่างดี
ในบรรดาโบราณทั้งหมด ต้องนับว่ายิมเนเซียม (Gymnasium) น่าสนใจที่สุด เพราะ ณ ที่นี้จิตวิญญาณอันอ่อนเยาว์ของเปอร์กามันได้รับการหล่อหลอมชี้นำ เดิมทีถูกมองว่าเป็นสถาบันเพื่อฝึกเสริมทางการทหารโดยใช้เวลาศึกษาสองปี ในยุคเพริคลิสตอนปลายแม้วัตถุประสงค์เดิมจะยังเป็นไปเพื่อเสริมสร้าง สุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี โดยผ่านการฝึกฝนของทางกองทัพ แต่ท้ายที่สุดก็ได้วิวัฒนาการขึ้นมาเป็นบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสูงส่งกว่าแค่การฝึกและกลยุทธ์ทางการทหารพื้นๆ แนวคิดนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อ หลักสูตร ของโรงเรียนและวิทยาลัยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน รวมถึงอริสโตเติลและปราชญ์ในยุคโบราณคนอื่นๆ นอกจากสถาบันขั้นพื้นฐานทางพลเรือนแล้ว ยังมีโลกการศึกษาในระดับสูงขึ้นไปอีก ผู้ที่ศึกษาอย่างจริงจังเข้าขั้นมืออาชีพจะได้เข้าทำงานในโรงเรียนด้านปรัชญาหนึ่งในสี่แห่งที่กรุงเอเธนส์หรือในโรงเรียนแพทย์ที่เปอร์กามัน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และคึกคักมาก
ก่อนลาจากเปอร์กามันขอให้ลองสังเกตกำแพงเมืองแห่งนี้ให้ดี จะพบว่ามีร่องรอยการซ่อมแซมมาก่อนแล้วตั้งแต่ในสมัยออตโตมัน สังเกตได้จากรูปแบบการก่อศิลาและอิฐเชื่อมต่อกันโดยใช้ปูนขาวเป็นตัวยึดแทนที่จะเป็นการก่อแผ่นหินแกรนิตให้วางแนบสนิทกันพอดีโดยไม่ต้องใช้ปูนขาวโบกทับ
|
คลิปวีดีโอ วิหารอะโครโปลิส |
|
|
|
|
อะโครโปลิส |
อะโครโปลิส |
อะโครโปลิส |
อะโครโปลิส |
|
|
|
|
อะโครโปลิส |
นั่งกระเช้าไปชมอะโครโปลิส |
โรงละครที่อะโครโปลิส |
วิวระหว่างนั่งกระเช้า |
|
โรงละครที่ชันที่สุดในโลก ใกล้วิหารอะโคโปลิส เมืองเปอร์กามัม |
|
โรงละครที่ชันที่สุดในโลก และ วิหารอะโครโปลิส |
คูซาดาสึ
คูซาดาสึแปลว่า เกาะสกุณา ตั้งอยู่ในอ่าวที่มีผิวน้ำเป็นประกาย ชายหาดกว้างขวางมีท่าจอดเรือขนาดใหญ่ จุเรือได้ถึง 600 ลำ คุซาดาสึเป็นจุดหยุดพักระหว่างทาง
ไปเอเฟซุสมาราวหนึ่งทศวรรษแล้ว ปัจจุบันมีทั้งโรงแรม หมู่บ้าน ร้านอาหาร และดิสโก้เธค เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่คูซาดาสึก็ยังสามารถรักษาเอกลักษณ์ความติดดินเอาไว้ได้ โรงแรมและร้านอาหารราคาถูกยังหาได้ในย่านลึกเข้าไปจากชายฝั่ง ร้านค้าพรมและเครื่องหนังมากมายกระวีกระวาดต้อนรับลูกค้าจากเรือท่องเที่ยวที่ผลัดกันเข้ามาเทียบท่าตลอดทั้งวัน คุณมีเวลาเหลือเฟือสำหรับเดินทางไปเอเฟซุสและชอปปิ้ง พอตกค่ำจังหวะชีวิตค่อยผ่อนคลายลงคุณสามารถท่องไปกับชีวิตยามราตรีปะปนไปกับชาวตุรกี
เอเฟซุส
ไม่มีแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีใดจะใหญ่โตเทียบเคียงกับเอเฟซุสได้ เอเฟซุสจึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทุกประเภท นับจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านโบราณคดีที่เป็นปลื้มกับการได้มาเห็นหลักฐานความเป็นจริงของเหตุการณ์และบุคคลที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือไปจนถึงนักท่องเที่ยวที่ชอบหาความสำราญตามสำนักนางโลม ในฤดูร้อนคุณควรออกเที่ยวแต่เช้าตรู่หรือช่วงบ่ายแก่ๆเพราะตอนกลางวันอากาศจะร้อนจัดและไม่มีร่ม
ต้นกำเนิดของนครเอเฟซุสยังหาข้อสรุปที่แน่ชัดไม่ได้ สตราโบและปาวซานิอัสเห็นตรงกันว่าชาวอะเมซอนเป็นก่อตั้ง แต่พลเมืองส่วนใหญ่กลับเป็นชาวคาเรียและเลเลเจีย ชาวคาเรียถือว่าตนเป็นพลเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอนาโตเลีย และฮาลีคาร์นัสซุสก็คือเมืองเอกของพวกเขาตามความในบันทึกและเฮโรโดตุส
อาเธเนอุส (Athenaeus) เล่าเรื่องชุมชนดั้งเดิมที่ตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนคริสตกาลเอาไว้ว่า ผู้ก่อตั้งไม่อาจตัดสินใจเลือกชัยภูมิได้จึงไปปรึกษาเทพยากรณ์ของอะพอลโลซึ่งชี้แนะเป็นปริศนาว่าให้ตั้งเมืองขึ้นตรงตำแหน่งที่ปลาและหมีชี้นำ
อันโดรครอสโอรสของกษัตริย์คอดรอส (Kodros) แห่งเอเธนส์นั่งทอดปลาอยู่กับสหาย ขณะขบคิดตีปริศนาปลาก็ดีดตัวออกมาจากกระทะ ทำให้สะเก็ดถ่านแตกปลิวว่อนเกิดไฟลุกไหม้พุ่มไม้ลามไปถึงที่ที่หมีหมอบซ่อนอยู่ มันตื่นไฟวิ่งออกมาจึงถูกอันโดรครอสฆ่าตาย แล้วปริศนาปลาและหมีก็ถูกไขกระจ่าง นครแห่งใหม่จึงได้รับการสร้างขึ้นทางตอนเหนือของภูเขาไพออน
เอเฟซุสรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาลพระเจ้าครีซุสแห่งลิเดียจึงทรงเลือกโจมตีนครแห่งนี้ก่อนทื่อื่นเมื่อราว 560 ปีก่อนคริสตกาล ชาวเอเฟซุสผู้ไรเดียงสาดึงเชือกจากวิหารเทพีอาร์เตมิสออกมาโยงรอบเมืองแล้วถอยเข้าไปหลบซ่อน เพราะเชื่อว่าองค์เทพีจะต้องปกป้องภัยอันตรายให้ และกองทัพลิเดียยาตราเข้าสู่เมืองพระเจ้าครีซุสทรงปฏิบัติต่อเชลยเยี่ยงมิตรต่างจากที่คาดไว้โดยสิ้นเชิง
|
|
|
|
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
|
|
|
|
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
|
|
|
|
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
เอเฟซุส |
|
ร้านค้าในอดีต ที่ เอเฟซุส |
มหาวิหารเทพีอาร์เทมิส (Archaic Temple of Artemis : 564-546 ปีก่อนคริสตกาล)
ในช่วงที่พระเจ้าครีซุสนั้นปกครองชาวเอเฟซุสวิหารนี้ยังสร้างไม่เสร็จ พระองค์จงทรงเอาใจชาวเอเฟซุสและองค์เทพีด้วยการสร้างหัวเสาคอลัมน์แกะสลักลวดลายอย่างสวยงามอุทิศให้กับวิหาร โดยมีพระนามจานึกอยู่บนหัวเสาต้นหนึ่ง ปัจจุบันเสาต้นนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ
เมื่อ 356 ปีก่อนคริสตกาลในคืนที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชประสูติ มีคนวิปลาสผู้หนึ่งชื่อ เฮรอสตาตุส ได้วางเพลิงเผาวิหารเพราะอยากให้ชื่อตนเองเป็นที่จดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งก็ได้ผล แต่ชาวเอเฟซุสกลับลงมือสร้างวิหารหลังใหม่ที่สวยงามยิ่งกว่าเก่าขึ้นโดยไม่รั้งรอ
ต่อมาเมื่อพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเสด็จมาถึงเมื่อ 334 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์ทรงชื่นชมความอุตสาหะของชาวเมืองมากจึงทรงเสนอพระองค์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องทำจารึกอุทิศวิหารแห่งนี้ถวายแด่พระองค์ แต่พระองค์ทรงถูกปฏิเสธอย่างนุ่มนวลเพราะชาวเอเฟซุสถือว่าของสิ่งหนึ่งเมื่ออุทิศให้เทพเจ้าองค์หนึ่งไปแล้วย่อมไม่อาจอุทิศให้กับผู้ใดได้อีก
มหาวิหารแห่งนี้ชาวเอเฟซุสสร้างต่อจนเสร็จสมบูรณ์ในภายหลัง ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมื่อครั้งที่เจ.ที. วูด วิศวกรชาวอังกฤษจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษเริ่มการขุดหาในปี 1863 นั่น วิหารแห่งนี้ถูกฝังลึกจนมิดอยู่ใต้ดิน จารึกที่ขุดพบในโรงละครระบุว่าวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในทิศทางของเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Way) ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆประมาณ ? ไมล์ (เกือบ 1 กิโลเมตร) จากแหล่งขุดสำรวจทางทิศใต้ของถนนคูซาดาสึพอดี เสาคอลัมน์แบบไอโอเนียต้นหนึ่งตั้งอยู่เดียวดายกลางพงอ้อที่ขึ้นปกคลุม ฐานที่โผล่พ้นดินขึ้นมาสองสามแห่งในบึงเป็นเครื่องเตือนความทรงจำอันน่าเศร้าใจว่าวิหารศิลาแห่งนี้เคยยิ่งใหญ่โอฬารเพียงใด
- โรงละคร
ตั้งอยู่ปลายทางของถนนอาร์คาดิอานาที่ตรงมาจากเรือ มีขนาดใหญ่โตน่าประทับใจจุคนได้ถึง 24,000 คนใช้จัดงานเทศกาลเอเฟซุสในฤดูใบไม้ผลิ โรงละครแห่งนี้สร้างในสมัยลีซีมาคอสโดยตัดเข้าไปในเนินลาดของภูเขาไพออน จากที่นั่งชั้นบนสุดคุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันวิเศษสุดของเมืองได้ ระบบเสียงของที่นี่นับว่าเป็นเลิศและก้าวหน้ากว่ายุคสมัยนั้นมาก มีการนำภาชนะสำริดหรือดินเหนียวไปวางไว้ตามจุดต่างๆเพื่อถ่ายทอดเสียงอีกด้วย
|
โรงละครที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เอเฟซุส |
หอสมุดเชลซุสอยู่ถัดลงมาจากโรงละคร หอสมุดนี้มีขนาดใหญ่โตจนบางคนเดากันว่าจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของฉากภาพยนตร์ที่ถูกทิ้งเอาไว้ หากแต่ความจริงนั้นหอสมุดแห่งนี้ ติเบริอุส จูลิอุส อาควิลาได้สร้างอุทิศให้กับติเบริอุส จูลิอุส เชลซุส ผู้เป็นบิดาใน ค.ศ. 114-117 โดยฝังโลงศพหินเอาไว้ที่ใต้ที่สมุด
- โรงอาบน้ำสกอลัสติชา
บริเวณหอสมุดจะมีถนนเลี้ยววกไปอีกทางหนึ่งและเปลี่ยนชื่อเป็นถนนจูเรเตสเป็นสายที่ตรงไปสู่ประตูเฮราคลิส ทางซ้ายมือของหัวถนนคือโรงอาบน้ำสกอลัสติชา (Baths of Scholasticia) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 และได้รับการฟื้นฟูขึ้นโดยสตรีนางหนึ่งเมื่อศตวรรษที่ 4 ในห้องโถงด้านหน้ามีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ แต่ส่วนศีรษะได้สูญหายไปแล้ว สมัยจักรพรรดิโรมันนิยมอาคารสามชั้นกันมากเพราะทั้งคนจนและคนรวยจะสามารถเข้ามาใช้ห้องทำความร้อนและสระน้ำทั้งหมดได้ฟรี แต่มีเพียงพวกเศรษฐีเท่านั้นที่อ้อยอิ่งอยู่ได้นานๆ เพื่อสนทนาเรื่องการเมืองและเรื่องซุบซิบนินทาขณะที่ไห้คนรับใช้นวดตัวคลายความเมื่อยขบ
- บ้านพระแม่มาเรีย (House of the Virgin Mary)
บ้านพระแม่มาเรียภาษาตุรกีเรียกแมร์เยมอะนา (Meryem Ana) อยู่เลยเชลซุสไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 5 ไมล์ (8 กิโลเมตร) เล่ากันว่าพระแม่เสด็จมาเอเฟซุสกับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37 และ 48 และสิ้นพระชนม์ลงที่นี่
หากคุณอยากชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งควรมาเยือน คุณสามารถชื่นชมความงามท่ามกลางหมู่แมกไม้ร่มรื่นและธารน้ำในหุบเขา แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นโรงสวดไปแล้ว ภายในมีรูปบูชาที่เล่าลือว่ามีอำนาจในการรักษาโรค มีไม้เท้าและเฝือกที่ผู้แสวงบุญทิ้งไว้เป็นสิ่งยืนยัน ชาวกรีกออร์โธด็อกซ์จะมาชุมนุมกันที่โรงสวดในวันที่ 15 สิงหาคมเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลพระแม่มาเรียเสด็จสู่สวรรค์ (Panagyri) รวมถึงพิธีสวดบูชาที่เรียกว่า พานาเกีย (Panaghia) ด้วย สำนักวาติกันถือที่นี่เป็นอารามแห่งหนึ่ง พระสันตะปาปาปอลที่ 6 เคยเสร็จมาเยือนในปี 1967 ที่แห่งนี้ชาวมุสลิมก็ให้ความนับถือมากและมักจะมาสักการะอยู่เป็นประจำ
|
|
|
|
บ้านพระแม่มาเรีย |
บ้านพระแม่มาเรีย |
บ้านพระแม่มาเรีย |
บ้านพระแม่มาเรีย |
|
คลิปวีดีโอ บ้านพระแม่มารี |
|
โรงละครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก |
รูปโดย www.TripDeeDee.Com
|