** สุดพิเศษ ** เสริมอาหารไทยทุกมื้อ
** พิเศษ ผ้าห่มพระพุทธเมตตาและพระปางปรินิพพาน หรือ ผ้าห่มต้นพระศรีมหาโพธิ์
** พิเศษ ** มีบริการอาหารจีนและอาหารไทย
** พิเศษ ** เสริมอาหารไทยทุกมื้อแบบจัดเต็ม เช่น ปลาสลิด น้ำพริกกะปิ ปลาหวานทอด อาหารยำ ต้มโคล้งปลากรอบ ต้มยำ แกงส้ม ไข่เค็ม หมูหยอง ปลากรอบ กุนเชียง ยำปลากระป๋อง ยำวุ้นเส้น ปลาข้างเหลืองทอด ผักกาดดอง น้ำพริกนรกต่างๆ พริกน้ำปลา ฯลฯ รวมทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ โอวันติล น้ำมะตูม น้ำเก็กหวย น้ำขิง เป็นต้น
** พิเศษ ** บริการผ้ารองนั่งตลอดทริป
** พิเศษ ** หัวหน้าทัวร์ผู้ชำนาญเส้นทาง
** พิเศษ ** บริการอาหารว่างทุกวันระหว่างเดินทาง
** พิเศษ ** แถมหนังสือสวดมนต์ + ทองคำเปลวสำหรับติดบูชาพระ
** พิเศษ ** มีพระไทยนำสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตลอดทริป
ตารางเวลาบิน |
วันเดินทาง |
เส้นทาง |
เที่ยวบิน |
เวลาออก |
เวลาถึง |
25 ธ.ค. 60 |
กรุงเทพฯ-เดลลี |
9W 65 |
05.55 |
12.05 |
25 ธ.ค. 60 |
เดลลี-ปัตนะ |
9W 730 |
14.05 |
15.40 |
01 ม.ค. 61 |
ปัตนะ-เดลลี |
9W 731 |
16.15 |
18.05 |
01 ม.ค. 61 |
เดลลี-กรุงเทพฯ |
9W 64 |
23.25 |
04.55 + 1 วัน ถึงไทย 2 ม.ค. 61 |
|
|
โปรแกรมการเดินทาง |
วันที่หนึ่ง |
กรุงเทพฯ เดลี ปัตนะ |
06.00 น. |
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 7 8 แถว N/P เคาน์เตอร์ สายการบิน JET AIRWAYS เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น บนเครื่องมีบริการอาหารค่ะ) |
08.55 น. |
ออกเดินทางสู่ เมืองเดลี โดยสายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 65 |
12.05 น. |
เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ และนำท่านต่อเครื่องบินภายในไปยังเมืองปัตนะ **(เวลาอินเดียช้ากว่าไทยประมาณ 1.30ชั่วโมง) ** |
14.05 น. |
ออกเดินทางต่อสู่ เมืองปัตนะ โดยสายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 730 |
15.40 น. |
ถึงสนามบินเมืองปัตนะ รับกระเป๋าสัมภาระจากนั้นเดินทางโดยรถปรับอากาศเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 1)
โรงแรมเมืองปัตนะ PUTLIPUTRA CONTINENTAL หรือเทียบเท่า |
วันที่สอง |
ปัตนะ ไวสาลี กุสินารา |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองไวสาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรวัชชี หนึ่งใน 16 แคว้นของชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาลเคยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญ พระพุทธองค์เสด็จเยี่ยมที่ไวสาลีครั้งแรกในพรรษาที่ 5 ชมกูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวัน อารามที่กษัตริย์ลิจฉวีสร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในป่ามหาวันทางเหนือของอาณาจักรวัชชีในป่าหิมาลัยและพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 ชมเสาอโศกที่มีรูปสิงห์อยู่ในลักษณะนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่สมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ประกอบไปด้วยสังฆาราม ห้องพัก ห้องประชุม ชมปาวาลเจดีย์ สถานที่พระยามารได้เข้ามากราบทูลขอให้พระองค์เสด็จปรินิพพานสถานที่พระพุทธองค์ทรงปลงอายุสังขาร พุทธวาจาในวันปลงอายุสังขาร สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ชนเหล่าใดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมี ทั้งขัดสน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 3) |
บ่าย |
ออกเดินทางสู่เมืองกุสินารา (ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง) นครแห่งมหาปรินิพพาน เคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นมัลละ 1 ในอาณาจักรแห่งมหาชนบท 16 แคว้นของอินเดียส่วนเหนือ เป็นสถานที่ปรินิพพาน สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ สถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ ฐานแห่งแสงสว่างทางศรัทธาและปัญญาที่มั่นคง นำท่านกราบสักการะสังเวชนียสถานแห่งสุดท้ายที่มหาปรินิพพานสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่ เป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าประทานการบวชให้สาวกองค์สุดท้าย เป็นที่ตรัสเทศนาปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือความไม่ประมาท ชมพระสถูปปรินิพพาน ชม พุทธวิหารปรินิพพาน ซึ่งภายในพระวิหารเป็นปฏิมากรรมพระพุทธปางปรินิพพานเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพานโดยมีนางมัลลิกา พระอนุรุทธ พระอานนท์อยู่ในภาวะโศกเศร้า ชมสถูปพระอานนท์ที่สร้างขึ้นบริเวณที่สันนิษฐานว่าพระอานนท์ยืนร้องไห้ ชม พราหมณ์เจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ และกราบสักการะ มกุฏพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ จากนั้นนำคณะถวายผ้าป่า ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 4) หลังอาหารพักผ่อนที่ โรงแรมที่เมืองกุสินารา OM RESIDENCY หรือเทียบเท่า |
วันที่สาม |
กุสินารา ลุมพินี |
เช้า |
**โปรดเตรียมหนังสือเดินทางติดตัวเพื่อประทับตราเข้าออกด่านอินเดีย-เนปาล**
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ ลุมพินีวัน(ใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง)ในเขตประเทศเนปาล ผ่าน เมืองโครักข์ปูร์และผ่านเมืองชายแดนโสเนาวลีของอินเดียเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะของเนปาลสถานที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเดินทางเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม(มื้อที่ 6) |
บ่าย |
นำท่านชม มหาสังฆารามอนุสรณ์ สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ นำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่สวนลุมพินี ชมมายาเทวีวิหาร ภายในมีรูปพระนางสิริมหามายาเทวีแกะสลักด้วยหินเป็นรูปพระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนมและข้างหน้าเป็นรูปเจ้าฟ้าชายสิทธัตถะกุมารกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว ชม สระสรงสนานธารโบกขรณี ชมเสาศิลาจารึกที่พระเจ้าอโศกมหาราชปักไว้ตรงที่ประสูติของพระสิทธัตถราชกุมาร โดยมีอักษรพรหมีจารึกไว้ ชมวัตถุสถานเสนาสนะสงฆ์และเจดีย์ สถานที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้สร้างไว้ เป็นพุทธบูชาตลอดมาไม่ขาดสายตั้งแต่โบราณกาล นำคณะถวายผ้าป่า ณ วัดไทยลุมพินี ซึ่งจัดสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพุทธบริษัทแห่งประเทศไทย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม(มื้อที่ 7)
โรงแรมที่เมืองลุมพินี REDSUN RESORT หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ |
ลุมพินี สาวัตถี |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 8) หลังอาหารออกเดินทางสู่เมืองสาวัตถี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง. เมืองสาวัตถี ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล 1 ใน 16 แคว้น เป็นเมืองที่ใหญ่พอกับเมืองราชคฤห์และพาราณสี เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายและเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา รวมทั้งเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุด ปัจจุบันเมืองนี้เหลือเพียงซากโบราณสถาน ชมวิถีชีวิตชนบทของประเทศอินเดียระหว่างเดินทาง |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) |
บ่าย |
นำท่านชมเชตวันวิหารเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นวัดที่พระพุทธเจ้ารวมทั้งพระอรหันต์ได้จำพรรษาอยู่นานที่สุดถึง 19 พรรษา สร้างโดยอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีเป็นชาวเมืองสาวัตถีไปค้าขายที่เมืองราชคฤห์ได้พบพระบรมศาสดาที่สีตะวันเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธธรรม เมื่อกลับมาจึงไปขอซื้อป่าไม้ของเจ้าเชตเพื่อสร้างอารามถวาย กล่าวกันว่าต้องขนเงินมาปูพื้นที่ให้เต็มสวนจึงจะซื้อที่ดินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าได้เพราะในสมัยนั้นดินแดนทุกแห่งเป็นของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ นำท่านกราบสักการะต้นโพธิ์พระอานนท์ซึ่งถือว่าอายุกว่า 2500 ปีซึ่งเป็นอายุยาวนานที่สุดในโลกร่วมกับต้นโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระประเทศศรีลังกา สักการะมูลคันธกุฏีของพระพุทธเจ้า กุฎิพระโมคคัลลา กุฎิพระสารีบุตร กุฎิพระสิวลี กุฎิพระอานนท์ และสถูปที่บรรจุสารีริกธาตุของพระอรหันต์ ชมบ่อน้ำที่พระพุทธเจ้าใช้เป็นที่สรงน้ำตลอดระยะเวลาที่จำพรรษาอยู่ ชมบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เศรษฐีองคมนตรีที่ปรึกษาเศรษฐกิจของพระเจ้าปเสนทิโกศล ชมบ้านปุโรหิตบิดาขององคุลีมาล, เนินดินที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ จากนั้นนำคณะถวายผ้าป่า ณ วัดไทยเชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 10)
โรงแรมเมืองสาวัตถี PAWAN PALACE หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า |
สาวัตถี พาราณสี |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองพาราณสี หรือ วาราณสี (ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชั่วโมง) ดินแดนแห่งการแสวงบุญชำระบาป มรดกโลกที่มีชีวิตสี่พันปีของอินเดียและเป็นเมืองหลวงแคว้นกาสี มีแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี จัดเป็นเมืองสุทธาวาสที่สถิตแห่งศิวเทพและถือว่าเป็นเมืองอมตะของอินเดีย เป็นที่แสวงบุญทั้งของชาวฮินดูและชาวพุทธทั่วโลก |
12.00 น. |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 12) |
บ่าย |
หลังอาหาร นำท่านชมพิธี อารตีบูชา หรือการ บูชาไฟ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา อารตี(พิธีบูชาไฟ) ในคัมภีร์ฤคเวทย์ กล่าวถึง การบูชาไฟ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่เด่นที่สุด เพื่อขอพรจากพระเป็นเจ้าให้ทรงมอบความสุขและความโชคดีให้แก่ผู้ที่บูชานั้น เครื่องสังเวยที่ใช้ในการบูชาไฟของพราหมณ์ คือ บูชาด้วยอาหารที่หุงต้มแล้ว โดยจัดทำภายในบ้านประกอบด้วย น้ำนม เมล็ดข้าว เนยแข็ง เหล้าโสม (กลั่นจากต้นไม้) ดอกไม้ เป็นต้น เมื่อทำพิธีกรรมให้นำอาหารเหล่านี้ใส่ลงไปในกองไฟ พร้อมสวดสรรเสริญพระเป็นเจ้า บูชาสังเวยไฟด้วยชีวิต เครื่องสังเวยชีวิต เป็นต้นว่าสัตว์ 4 เท้า หรือสัตว์ปีก รวมถึงมนุษย์ ซึ่งเป็นวิวัฒนาการของศาสนาพราหมณ์ในช่วงต้นคริสต์สักราช เรียกในนามศาสนาฮินดู สัตว์ที่ใช้ในพิธีกรรม เช่น แพะ แกะ ควาย ไก่ นก เป็นต้น โดยการนำเลือดสดๆ ใส่ลงไปในกองไฟที่กำลังลุกไหม้ บูชาสังเวยด้วยน้ำโสม (เหล้าโสมที่กลั่นจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง) การเตรียมสถานที่ทำพิธี พระฮินดูผู้ทำพิธีจะพิจารณาเลือกที่ที่จะก่อไฟศักดิ์สิทธิ์ (เรียกว่า กองกูณฑ์) โดยจะใช้มีดปลายแหลม หรือไม้ ทำการขีดลงบนพื้นดิน 3 ขีด เพื่อเลือกสถานที่หลังจากนั้นก็จะขุดดินบริเวณนั้นให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสตกแต่งผิวรอบๆ ให้เรียบ จากนั้นก็จะนำน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเทราดในนั้นแล้วรอจนแห้งสนิทต่อมาก็เริ่มพิธีกรรมบูชาไฟ ในอินเดียเวลามีการทำพิธีกรรมบูชาไฟ เครื่องสังเวยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ หญ้าคา เชื่อว่าเป็นหญ้าศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับพระเป็นเจ้า จึงต้องนำเอาหญ้าคามาเป็นเครื่องสังเวยด้วย หญ้าคา ในทางศาสนาพราหมณ์มีความเกี่ยวข้องกันคือ อาสนะที่ประทับของพระศิวะบนเขาไกรลาสทำด้วยสิ่งนี้ ชาวฮินดูลัทธิศิวนิกายที่นับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุด จะนำหญ้าคามาเพื่อเป็นเครื่องบูชา |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่โรงแรม(มื้อที่ 13)
โรงแรมเมืองพุทธคยา HOTEL TAJ DARBAR หรือเทียบเท่า |
วันที่หก |
พาราณสี - พุทธคยา |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสารนาท นำคณะถวายผ้าป่า ณ วัดไทยสารนาถ ชม สถูปเจาคันธี ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ชม ธรรมราชิกสถูป เป็นสถูปที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน ชม มูลคันธกุฏี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่12 ชม ยสเจดีย์ สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับยสกุลบุตร นำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทายวันสถานที่แสดงปฐมเทศนา ธรรมจักกัปปวัตนสูตรโปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้า ชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ จัดแสดงและรักษาโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้ในบริเวณสารนาถเช่นพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ เทวรูป เครื่องใช้สอยในยุคนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิมากรรมที่เป็นเลิศคือพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งดงามยิ่งนัก สิงห์อันเป็นตราราชการแผ่นดินของอินเดีย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ตำบลพุทธคยา เมืองคยา (เดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง) พุทธสถานสำคัญใน อำเภอคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุด 1 ใน 4 แห่ง ของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธสังเวชนียสถานที่มีความสำคัญที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม(มื้อที่ 15) |
บ่าย |
นำท่านชมมหาเจดีย์พุทธคยาที่บูรณะในสมัยพระเจ้าอโศกบริเวณนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของโลกหรือเป็นสะดือของโลกสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ชมสัตตมหาสถาน 7 แห่งคือ โพธิบัลลังก์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ ต้นอชปาลนิโครธ ต้นมุจลินทร์ ต้นราชาตยนะ และนำท่านประทักษิณสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ 3 รอบ สวดมนต์ นั่งสมาธิถวายเป็นพุทธบูชา บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ในการถ่ายรูป ต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในรถเท่านั้น แต่สามารถใช้กล้องถ่ายรูป ไอแพดได้ จากนั้นเดินทางชมบ้านนางสุชาดาหรือสุชาฏากุฏี ธิดากฎุมพีแห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคมผู้ถวายข้าวมธุปายาสอันประณีตแด่มหาบุรุษก่อนการตรัสรู้ ชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่ง แม่น้ำเนรัญชราบริเวณท่าสุปปติฏฐะ สถานที่พระมหาบุรุษได้อธิษฐานลอยถาดทองริมฝั่งแม่น้ำ สมควรแก่เวลานำคณะถวายผ้าป่า ณ วัดไทยพุทธภูมิ |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 16)
โรงแรมเมืองพุทธคยา TAJ DARBAR หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด |
พุทธคยา ราชคฤห์ นาลันทา ราชคฤห์ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองราชคฤห์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 4 ชั่วโมง มหานครมหาแห่งแคว้นมคธ จัดว่าเป็นนครใหญ่ 1 ใน 6 นครของอินเดียโบราณ ในหนังสือรามเกียรติ์เรียกเมืองนี้ว่า วสุมาตี เดินขึ้น เขาคิชกูฏ หนึ่งในเบญจคีรี ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชม มูลคันธกุฏี สถานที่สำคัญสุดที่ชาวพุทธเมื่อขึ้นเขาคิชกูฏต้องกำหนดไว้คือการไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ ณ มูลคันธกุฏี สถานที่ที่เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ชม ถ้ำสุกรขาตา สถานที่ที่พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ นมัสการ ถ้ำพระโมคคัลลานะ กุฏีของพระอานนท์ นำท่านชม วัดชีวกัมพวันหรือวัดสวนมะม่วงโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก และชมเรือนคุมขังพระเจ้าพิมพิสาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาเดิมเป็นสวนไม้ไผ่ของพระเจ้าพิมพิสาร พระองค์ถวายเป็นอารามแด่พระพุทธเจ้าและเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์ 1250 องค์ มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่นานในพรรษาที่ 2 4 |
กลางวัน |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 18) |
บ่าย |
หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองนาลันทา นำท่านชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเดิมเป็นสวนมะม่วงของทุสสปาวริกเศรษฐีได้อุทิศถวายแก่พระพุทธเจ้าในยุคหลังที่กษัตริย์อินเดียราชวงศ์คุปตะทรงเข้ารับอุปถัมภ์ ชมสถูปปรินิพพานของพระสารีบุตร นำท่านสักการะหลวงพ่อองค์ดำที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา ชมตโปทารามนที สถานที่อาบน้ำของชาวฮินดูที่แบ่งชนชั้น กษัตริย์ พราหมณ์ แพศท์ ศูทย์ |
เที่ยง |
รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 19) |
ที่พัก |
โรงแรมเมืองราชคฤห์ RAJGIR RESIDENCY HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่แปด |
ราชคฤห์ ปัตนะ - เดลลี - กรุงเทพฯ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 20) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองปัตนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 21) |
บ่าย |
เดินทางสู่ สนามบินปัตนะ เช็กอินโหลดกระเป๋าสายการบิน JET AIRWAYS |
16.15 น. |
ออกเดินทางกลับสู่ เมืองเดลลีโดย สายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 731 |
18.05 น. |
ถึง สนามบินเมืองเดลลี นำท่านผ่านพิธีการ ตม. ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ พร้อมรับ CASH BACK ท่านละ 500 รูปี อิสระรับประทานอาหารค่ำที่สนามบิน |
23.25 น. |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน JET AIRWAYS เที่ยวบินที่ 9W 64 |
วันที่เก้า |
กรุงเทพฯ |
04.55 น. |
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมกับความประทับใจ |
|
โปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
โปรแกรมแสวงบุญนี้ตื่นแต่เช้ากลับโรงแรมดึกทุกวัน ควรเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม
|
|
ค่าบริการนี้รวม
- ตั๋วโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัดระหว่างประเทศเส้นทาง กรุงเทพฯ-เดลลี-กรุงเทพฯ โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์
- ตั๋วโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัดภายในประเทศเส้นทาง เดลลี-ปัตนะ-เดลลี โดยสายการบินเจ็ทแอร์เวย์
- ค่าภาษีสนามบิน ค่าประกันสายการบินและภาษีน้ำมันของสายการบิน ณ วันที่ 7 มกราคม 2555
- ค่าโรงแรมที่พัก ตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า (2-3 ท่านต่อหนึ่งห้อง)
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามรายการระบุ
- ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการที่ระบุ
- ค่ารถรับส่งและระหว่างการนำเที่ยวตามรายการระบุ
- ค่าวีซ่าเข้าประเทศอินเดียและเนปาล
- หัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย ผู้ชำนาญโปรแกรมดูแลท่านตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
- แจกน้ำดื่มวันละ 2 ขวด
ค่าบริการนี้ ไม่รวม
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 800 บาทต่อลูกค้าหนึ่งท่าน
- ค่าเงินทำบุญต่างๆ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น พนักงานขับรถ พนักงานบริการยกกระเป๋า 40USD ต่อลูกค้าหนึ่งท่าน
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี) ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
- ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
- ค่าน้ำหนักเกินพิกัด 30 กิโลกรัม ต่อท่าน
- ค่าบริการไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และภาษี หัก ณ ที่จ่าย 3 % กรณี ต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ
การเตรียมเอกสารการเดินทาง
**แจ้งเพิ่มเติมจากทางสถานทูต**
ผู้ที่ประสงค์เดินทางเข้ายังประเทศอินเดียทุกท่านจะต้องทำการยื่นขอวีซ่าอินเดียแบบแสกนลายนิ้วมือด้วยตนเองเท่านั้น ณ สถานที่ขอวีซ่าอินเดีย IVS Global Pvt.Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ อาคาร PS Tower ชั้น 10
การเดินทาง: BTS ลง สถานีอโศก ออกช่องทางที่ 3 ต่อวินมาตึก PS Tower // MRTลงสถานีสุขุมวิท ออกช่องทางที่ 1 ต่อวินมาตึก PS Tower //แอร์พอร์ตลิ้ง ลงสถานีมักกะสัน ต่อวินมาตึก PS Tower //เรือลงท่าเรืออโศก ต่อวินมาตึก PS Tower ถนนอโศกมนตรี ตรงข้ามอาคารเสริมมิตร อยู่ฝั่งเดียวกับตึกแกรมมี่ มศว.ประสานมิตร และชิโนทัย กดลิฟท์ 4 ตัวแรกเท่านั้น (Low Zone)
มีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-2580684 5
3. เอกสารประกอบการขอวีซ่า มีระยะเวลาในการทำวีซ่า ประมาณ 5-7 วันทำการ ไม่รวมเสาร์ อาทิตย์
- หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
- รูปถ่ายสีพื้นขาว ขนาด 2 * 2 นิ้วเท่านั้น และห้ามสวมเสื้อสีขาว โดยรูปต้องเห็นส่วนของไหล่และบ่า ด้วยคะใช้จำนวน 3 รูป หากรูปไม่ถูกต้องท่านจะได้รับการปฏิเสธการยื่นวีซ่า และ หากท่านส่งรูปมาไม่ถูกต้องตามที่บริษัทฯแจ้งไว้ทางบริษัทฯขอเรียกเก็บค่าทำรูปท่านละ 300 บาทเนื่องจากบริษัทฯต้องดำเนินการทำรูปด่วนให้ท่านใหม่เพื่อให้ทันต่อการยืนขอวีซ่า
ตัวอย่างรูปทำวีซ่าอินเดีย

4. สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาวีซ่าอินเดียเก่า (ถ้ามี)
6. แบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่า(บริษัทจะจัดส่งให้ทาง email หรือ fax)
สถานฑูตอาจปฏิเสธไม่รับทำวีซ่าให้พาสปอร์ตของท่าน ในกรณีดังนี้
1.ชื่อเป็นผู้ชาย แต่ส่งรูปถ่ายที่ดูเป็นหญิง เช่น ไว้ผมยาว หรือแต่งหน้าทาปาก
2.นำรูปถ่ายเก่า ที่ถ่ายไว้เกินกว่า 6 เดือนมาใช้
3.นำรูปถ่ายที่มีวิวด้านหลัง ที่ถ่ายเล่น หรือรูปยืนเอียงข้าง มาตัดใช้เพื่อยื่นทำวีซ่า
4.นำรูปถ่ายที่เป็นกระดาษถ่ายสติคเกอร์ หรือรูปที่พริ้นซ์จากคอมพิวเตอร์
กรุณาส่งเอกสารสำหรับทำวีซ่า หนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมรูปถ่าย ก่อนเดินทางอย่างน้อย 21 วัน มาที่...
กนกวรรณ โพธิ์นอก
บริษัท ทริปดีดี ดอทคอม จำกัด
89/123 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 23 ซ.พระยาสุเรนทร์ 21 แยก 3 ถ.พระยาสุเรนทร์
แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510
หมายเหตุ : ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะ เช่น ราคาที่สูงขึ้นจากสายการบินเรียกเก็บเพิ่มเติม เช่น ค่าภาษีน้ำมัน เป็นต้น
เงื่อนไข
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถเรียกค่าบริการคืนเป็นเงินได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะแพคแกจเหมาจ่าย
- รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือ บางส่วน
- บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน หรือ หากคณะเดินทาง 10 - 14 ท่าน แต่ไม่ถึง 15 ท่าน มีหัวหน้าทัวร์ทางบริษัทฯขอเก็บเพิ่มท่านละ 3,000 บาท
- บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
หมายเหตุ
- ของเหลว เจล และเสปรย์ ทุกชนิด กรุณานำใส่กระเป๋าสัมภาระ กรณีที่จะนำติดตัวไปให้บรรจุใส่ถุงพลาสติกใสเปิด-ปิดผนึกได้ ไม่เกิน 1 ถุง ปริมาณที่ระบุไว้บนภาชนะที่ใส่ชิ้นละไม่เกิน 100ml/g รวมไม่เกิน 1,000ml/g
- สายการบินอนุญาติให้นำสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องได้ด้วยน้ำหนักไม่เกิน 20kg.
|
|