วันที่หนึ่ง |
28 เม.ย. 61 : กรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์-สุราบาย่า |
07.00 น. |
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 ประตู 2 เคาน์เตอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง |
10.00 น. |
ออกเดินทางสู่ กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวบินที่ AK 881 บริการอาหารกลางวันบนเครื่อง** |
13.15 น. (เวลาท้องถิ่น) |
ถึง สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ เช็กอินโหลดกระเป๋าเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองสุราบาย่า (เวลาที่กัวลาลัมเปอร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) |
16.15 น. |
ออกเดินทางสู่ สุราบาย่า โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ XT 323 |
17.55 น. |
เดินทางถึงสนามบินสุราบาย่า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางเช็กอินเข้าสู่ที่พัก (เวลาท้องถิ่นเท่ากับประเทศไทย) |
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 1) หลังอาหารอิสระ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย |
ที่พัก |
โรงแรม WIN SURABAYA หรือ เทียบเท่า |
วันที่สอง |
29 เม.ย. 61 : สุราบาย่า Madakaripura Waterfall โบรโม่ |
07.00 น. |
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อมรับประทานอาหารเช้า(มื้อที่ 2) ที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่ Cemoro Lawang ประตูสู่ Bromo ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (มื้อที่ 3) หลังอาหารทางนำท่านแวะชม น้ำตก MADAKARIPURA ในการเข้าถึงน้ำตกจะต้องเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตร แนะนำให้เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ และเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย รับรองว่าเปียกแน่นอน เพราะเราต้องเดินลอดใต้ม่านน้ำเข้าไปด้านใน กล้องและมือถือโดนละอองน้ำชุ่มฉ่ำมาก โปรดเตรียมซองกันน้ำสำหรับใส่มือถือและกล้อง มาดาการิปุระ เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 200 เมตร ซ่อนอยู่ในตอนท้ายของหุบเขาลึก มีแหล่งต้นน้ำมาจากผืนป่าเหนือน้ำตกขึ้นไป มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงาม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเช็กอินเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อน |
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 4) หลังอาหารให้ท่านรีบพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวตื่นเช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมวิวภูเขาไฟโบรโม่ |
ที่พัก |
โรงแรม CEMERA INDAH BROMO หรือ เทียบเท่า |
วันที่สาม |
30 เม.ย. 61 : โบรโม่ ชมพระอาทิตย์ขึ้น จุดชมวิวพีนาจากัน -คาวาอิเจี้ยน |
03.00 น. |
ปลุกตื่น และนำท่านเดินทางด้วยรถ 4WD สู่จุดวิวชม Penanjakan ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโบรโม่ให้อิสระถ่ายภาพกันตามอัธยาศัย ณ จุดชมวิว จากจุดชมวิวท่านจะได้เห็นภูเขาไฟโบรโม่ (ยังไม่ดับ) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,329 เมตร โบรโม่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Bromo Tengger Semeru บนเกาะชวาตะวันออก ถูกเรียกว่า ลมหายใจของเทพเจ้า Breathe of God ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู นอกจากนี้ยังเห็นภูเขาไฟบาต๊อก(Gunung Batok) ที่อยู่ด้านหน้าโบรโม่ เป็นภูเขาไฟที่สงบนิ่งแล้ว และภูเขาไฟที่สำคัญอีกลูก คือ เขาพระสุเมรุ (Gunung Semeru) ภูเขาไฟที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดตามคติของศาสนาฮินดู ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะชวา ทุกๆ 15 20 นาที เขาพระสุเมรุจะระเบิดกลุ่มควันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังกับมีระเบิดเวลาธรรมชาติซ่อนอยู่ และไกลๆ เป็น ภูเขาไฟเมราปี (ยังไม่ดับ) |
08.00 น. |
จากนั้นนำท่านมายังภูเขาไฟโบรโม่ โดยการขี่ม้าและเดินบันไดขึ้นไปอีกราวๆ 200 ขั้น เพื่อขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ สมควรแก่เวลานำท่านกลับรีสอร์ท รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ Banyuwangi คาวาอีเจี้ยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 6) หลังอาหารออกเดินทางต่อ |
เย็น |
ถึงที่พักเช็คอิน พร้อมรับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 7) หลังอาหารเตรียมพักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปเดินเทรคคาวาอีเจี้ยน |
ที่พัก |
โรงแรม KETAPANG หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ |
01 พ.ค. 61 : คาวาอีเจี้ยน ชมเปลวไฟสีน้ำเงิน และ พระอาทิตย์ขึ้นคาวาอีเจี้ยน - สุราบาย่า |
เที่ยงคืน |
ปลุกตื่นเพื่อเดินทางไปยังคาวาอีเจี้ยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงจะถึงทางขึ้น Paltuding ซึ่งเป็นจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นสู่ภูเขาไฟคาวาอิเจี้ยน และต้องเดินขึ้นเขาอีก 3 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. โดยระหว่างทางมีร้านขายเครื่องดื่มและให้เช่าหน้ากากกันแก๊สกำมะถัน เราจะขึ้นไปชม เปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Flame) ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของกำมะถัน และจะมีให้เห็นในช่วงที่มืดสนิทเท่านั้น ถ้าฟ้าสว่างแล้วเราจะมองไม่เห็น พร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นที่คาวาอีเจี้ยน พอเริ่มสว่างเราก็จะมองเห็น Sulphur Lake ที่น้ำมีสีเทอควอยซ์ ถือเป็นทะเลสาบน้ำกรดบนปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีค่า pH เท่ากับ 0.5 ค่าความเป็นกรดนี้ก็เปรียบเหมือนกับกรดจากถ่านไฟฉายหรือแบตเตอร์รี่ ถ้าเราไปสัมผัสนี่ก็คืออันตรายทำให้เจ็บป่วยแบบเฉียบพลันได้ การปะทุของภูเขาไฟในอดีตอย่างรุนแรงทำให้ปากปล่องภูเขาไฟยุบตัวลงจนกลายเป็นทะเลสาบ นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นการทำงานของคนงานเหมืองแร่ โดยจะเริ่มงานกันตั้งแต่ตี 3 หาบกระบุงเปล่าขึ้นมาแล้วลงไปที่ปากปล่องแซะก้อนกำมะถันไต่ขึ้นมาบนทางที่ชัน แล้วหาบลงเขาไปอีก 3 กม. ซึ่งน้ำหนักของแร่กำมะถันที่ชาวบ้านแบกกันอยู่ที่ประมาณหาบละ 60 80 กก. ค่าจ้างจะอยู่ที่ กก.ละ 2 บาท วันนึงอาจจะหาบได้ 2-3 รอบ คิดเป็นเงินรอบละประมาณ 100 กว่าบาท นับเป็นงานที่เหนื่อยแสนสาหัสและอันตรายบั่นทอนสุขภาพเอามากๆ เพราะต้องดมแก๊สพิษเข้าปอดอยู่ทุกวัน กำมะถันที่ได้นำไปผลิตเป็นของที่ระลึก กับเครื่องสำอางค์ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับมา รับประทานอาหารที่รีสอร์ท (มื้อที่ 14) |
สาย |
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สุราบาย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 15) |
เย็น |
ถึงโรงแรม นำท่านเช็คอิน รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 16) หลังอาหารอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
ที่พัก |
โรงแรม WIN SURABAYA หรือ เทียบเท่า |
วันที่ห้า |
2 พ.ค. 61 : สุราบาย่า- กัวลาลัมเปอร์ - กรุงเทพ |
06.00 น. |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินสุราบาย่า |
10.30 น. |
ออกเดินทางสู่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เที่ยวบินที่ XT 324 **บริการอาหารกลางวันบนเครื่อง** |
14.00 น. |
เดินทางถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเช็กอินต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ |
16.45 น. |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ AK 892 |
18.00 น. |
ถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ |
|
หมายเหตุ :
- โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- มาเป็นกรุ๊ปจำนวน 15 คนขึ้นไปออกเดินทางได้ตามที่ต้องการ
|
|
ค่าบริการนี้รวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย ชั้นประหยัด เส้นทาง ดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ / กัวลาลัมเปอร์-สุราบาย่า / สุราบาย่า-กัวลาลัมเปอร์ และ กัวลาลัมเปอร์-ดอนเมือง
2. ค่าโรงแรมที่พัก 4 คืน ... (พัก ระดับ 3 ดาว )
2. ค่าอาหารทุกมื้อพร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่ม
3. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยว
4. ค่าประกันอุบัติเหตุ วงเงิน 1,000,000.- บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
5. ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
6 .มัคคุเทศก์ท้องถิ่น พูดภาษาอังกฤษ นำเที่ยวตลอดการเดินทาง
7. หัวหน้าทัวร์ไทยบริการ
8. ค่ารถจีปที่โบรโม่ / ค่าขี่ม้าที่โบรโม่
ค่าบริการนี้ไม่รวม
1.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ 25 USD ต่อลูกค้า 1 ท่าน
2.ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 500 บาท ต่อลูกค้า 1 ท่าน
3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าอินเตอร์เน็ต
4. ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าเครื่องดื่มพิเศษนอกเหนือรายการ ค่ามินิบาร์ในโรงแรมที่พัก
5. ภาษีสนามบิน (ถ้ามี)
การเตรียมเอกสารการเดินทาง
หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
การจองทริป
ผู้สนใจ โอนเงินมัดจำค่าแพคแกจทัวร์ ท่านละ 10,000 บาท
หมายเหตุ : ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะ เช่น ราคาที่สูงขึ้นจากสายการบินเรียกเก็บเพิ่มเติม เช่น ค่าภาษีน้ำมัน เป็นต้น
|