วันที่หนึ่ง |
สนามบินสุวรรณภูมิ-เมืองอัลมาตี้-กรุงอิสตันบูล |
18.00 น. |
พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน S ประตู 9 สายการบิน มาฮาร์น แอร์ W5 เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง |
10.30 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน แอร์ แอสตาน่า เที่ยวบินที่ KC 932
สายการบินที่ได้รับรางวัล World Airlines Skytrax Awards ปี 2012, 2013, 2014 สามปีติดต่อกัน (ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 50 นาที) |
16.20 น. |
เดินทางถึงสนามบิน อัลมาตี้ล Almaty ประเทศ คาซัคสถาน Kazakhstan เปลี่ยนเที่ยวบิน |
17.55 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน แอร์ แอสตาน่า เที่ยวบินที่ KC 911 |
20.40 น. |
เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูลIstanbul ประเทศ ตุรกี นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
พักค้างคืน ที่ Golden Way Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่สอง |
ฮิปโปโดรม-สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-พระราชวังทอปกาปึ-อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน-ช้อปปิ้งแกรนด์บาร์ซาร์ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านชมสนามแข่งม้าของชาวโรมัน หรือ ฮิปโปโดรม Hippodrome หรือ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรม ได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งสวนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณ ในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเพลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ตุตโมซิส ที่ 3 ถูกนำกลับมาใช้ไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นนำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอะห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความงดงามและยิ่งใหญ่กว่า โบสถ์เซนต์โซเฟีย St. Sophia ของจักรวรรดิ ไบแซนไทน์ให้ได้ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซนต์โซเฟีย อย่างไรก็ตาม โบสถ์เซนต์โซเฟีย ก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย St. Sophia ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็น มัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace ซึ่งสร้างในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมต ผู้พิชิต ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ อิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ภายในพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิเช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างของชาวโรมันในอดีต อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน Underground Cistern ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ จากนั้นเป็นเวลาของนักช้อป ส่งท้ายครึ่งวันช่วงบ่ายด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถที่จะเลือกซื้อของฝากคนที่รัก หรืออาจจะเลือกซื้อเป็นของขวัญให้กับญาติมิตรที่อยู่เมืองไทยได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ ผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ มีให้เลือกซื้อมากมาย |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างคืน ที่ Golden Way Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่สาม |
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส-พระราชวังโดลมาบาเช่ - เมืองชานัคคาเล่ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านต่อด้วยการ ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำThe Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่
เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่อง
แคบเหล่านี้ นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ Dolmabahce Palace เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยสุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังน้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อบัลยัน เป็นศิลปะผสผสานของยุโรปตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็กๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บนไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรง |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัท Eceabat (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง) จากนั้นนำท่านข้ามช่องแคบดาดาแนลด์โดยเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นฝั่งที่ เมืองชานัคคาเล่ Chanakkale ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า ตัดกับทะเลอีเจียน |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Iris Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ |
กรุงทรอย-ชมม้าไม้แห่งกรุงทรอย-เมืองเปอร์กามัม -วิหารอะโครโปลิส-เมืองคูซาดาซึ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ กรุงทรอย Troy ชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอย Wooden Horse of Troy สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเองอีกด้วย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัม Pergamum |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านชมความสวยงามของ วิหารอะโครโปลิส Acropolis ซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย มี โรงละครที่ชันที่สุดในโลก ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 10,000 คน จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasiที่แปลว่า เกาะนก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียนเป็นท่าเรือที่สำคัญ เรื่อที่ล่องทะเลอีเจียนจะจอดเรียงรายกันอยู่ที่เมืองคูซาดาซึ แห่งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยว เมืองเอฟฟิซุส Ephesus |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Marina Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า |
เมืองคูซาดาซึ-บ้านพระแม่มารี-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-เมืองปามุคคาเล่ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี The Virgin Marys House ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปฏิหารย์ โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่ง พระสันตะปาปา โป๊ป เบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้านมีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และ ความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอฟฟิซุส City of Ephesus ซึ่งเป็นเมืองอาณาจักรโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียในสมัยนั้น ในอดีตเอฟฟิซุสเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของโรมันในคาบสมุทรอนาโตเลียเป็นศูนย์กลางทางการค้า การคมนาคม ตั้งอยู่ริมทะเล จนได้รับการกำหนดให้เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน เมืองเอฟฟิซุสมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ ซากเมืองที่เห็นในปัจจุบันมีความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อาจจะเป็นรองแค่ปอมเปอีเท่านั้น นำท่านเข้าชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณRoman Bath ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอาบน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นำท่านชม วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่งของโรมัน ความโดดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้านหน้าสร้างเป็นเสา โครินเธียน 4 ต้น คู่กลางรองรับโค้งครึ่งวงกลมที่เรียงอย่างสวยงาม โค้งด้านหลังมีภาพแกะสลักเป็นรูปนางเมดูซ่า หัวเป็นงู นำชมอาคารที่โดดเด่นที่สุดจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเอฟฟิซุส คือ หอสมุทรเซลซุส Library of Celsus เป็นอาคารสองชั้น ด้านหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า ห้องสมุดนี้สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดย ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา Julius Aquila เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่พ่อของท่าน ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ ด้านหน้ามี รูปปั้นของเทพี 4 องค์ ได้แก่ Sophia (เทพีแห่งปัญญา), Arete (เทพีแห่งความดี), Ennoia(เทพีแห่งความคิด), Episteme (เทพีแห่งความรู้), จากนั้นนำท่านเข้าชมสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น เดิมสร้าง
ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ โรมันมาปรับปรุงซ่อมแซมให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น ขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ท่าน ช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสู ผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) คำว่า ปามุคคาเล่ ในภาษาตุรกี หมายถึง ปราสาทปุยฝ้าย Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา คาลดากึ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Richmond Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่หก |
ปราสาทปุยฝ้าย-เมืองคอนย่า |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-33.5 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ |
12.00 น. |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทางประมาณ 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง)
ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญ
ของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกี นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา Mevlana Museum หรือสำนักลมวน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดย เมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใน ภายในตกแต่งประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาน่า |
เย็น |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
พักค้างคืน ที่ Hilton Garden In 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด |
เมืองคอนย่า-เมืองคัปปาโดเกีย |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ ระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์ Caravanserai ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอเรเม Goreme เพื่อเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม ระบำหน้าท้อง ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี
พักค้างคืน ที่ Yiltok Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่แปด |
เมืองคัปปาโดเกีย-เมืองอันตาเลีย ริเวียร่าแห่งตุรกี |
05.00 น. |
ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 200 ดอลล่าสหรัฐในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา 210 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทยไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ท่านเข้าชม นครใต้ดิน Underground City of Kaymakli ซึ่งเป็นเมืองใต้ดินที่มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของการสร้างเมืองใต้ดิน ปัจจุบันยังสรุปไม่ได้ ส่วนใหญ่ต่างก็ลงความเห็นว่าเป็นการสร้างเพื่อใช้เป็นทีหลบภัยจากข้าศึกศัตรู (โดยเฉพาะพวกทหารโรมัน) แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นกลับถ่ายเทเย็นสบาย เนื่องจากเป็นหินภูเขาไฟ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี ประมาณ 17-18 องศาเซลเซียส หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี พิเศษ!! เข้าชมบ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง Local Cave House ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ เมืองอันตาเลีย |
18.45 น. |
ออกเดินทางสู่ เมืองอันตาเลีย โดยสายการบิน Onu Air เที่ยวบินที่ KC 912 |
19.45 น. |
ออกเดินถึงงสนามบิน เมืองอันตาเลีย จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรม
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Cender Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่เก้า |
เมืองอันตาเลีย-เมืองอัลมาตี้ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
นำท่านชมความสวยงามของ เมืองอันตาเลีย Antalya ชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower อีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือ ประภาคารในอดีต ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ เป็นหอคอยทรงกลมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย จากนั้นนำท่านสู่ ประตูเฮเดรียน Hadrians Gate ประตูชัยซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน Roman Emperor Hadrian ในช่วงศตวรรษที่ 2โดยประตูนั้นถูกสร้างขึ้นในรูปแบบทรงโค้ง จำนวน 3 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นประตูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีอีกด้วย จากนั้นนำท่านชม ท่าเรือโบราณ Old Habour เป็นท่าเรือที่มีความสวยงามมากที่สุดในบรรดาอ่าวทั้งหลายของประเทศตุรกี มีเรือจอดเรียงรายนับเป็นร้อยลำ จะมีการตกแต่งเรื่อไปเรือโจรสลัดรูปทรงต่าง ๆ สวยงามมาก ปัจจุบันท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้ ด้านบนของอ่าวจะมีบ้านเรือนที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้เป็นอย่างดี สวยงามมาก จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความงามของอ่าวที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เนี่ยน Mediteranian Boat Trip เจ้าของสามญานาม ริเวียร่าแห่งตุรกี ให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดโดยการล่องเรือที่ตกแต่งคล้ายกับเรือโจรสลัด เรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างเรียงรายอยู่ตามหน้าผา และที่พลาดไม่ได้เรือจะพาท่านล่องไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นับว่าเป็นความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกทั่วๆไปในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไหลลงด้านล่างจะเป็นลำธารน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
(บริษัทฯ ไม่มีบริการอาหารกลางวัน เนื่องจากระหว่างทางที่ท่านเดินท่องเที่ยวอยู่บริเวณท่าเรือโบราณ ท่านสามารถซื้ออาหารรับประทานได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นแซนด์วิช หรือน้ำผลไม้ต่าง ๆ ) |
14.35 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน แอร์ แอสตาน่า เที่ยวบินที่ KC916 |
22.40 น. |
เดินทางถึง สนามบิน อัลามาตี้ ประเทศคาซัคสถาน (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน) |
วันที่สิบ |
เมืองอัลมาตี้-กรุงเทพมหานคร |
01.00 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน แอร์ แอสตาน่า เที่ยวบินที่ KC 931 |
08.55 น. |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |
|
หมายเหตุ : ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง
สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)
กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม) |
|
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่
สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 7 มกราคม 2557) **
|
|
อัตราค่าบริการนี้รวม
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นนักท่องเที่ยว สายการบิน แอร์ แอสตาน่า (น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ท่าน)
ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศตุรกีและประเทศคาซัคสถาน
ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000.- บาท (ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี)
ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, น้ำดื่มบริการบนรถ วันละ 2 ขวด
ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุ
เจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น (3.00USD / ท่าน / วัน), คนขับรถ (2.00USD / ท่าน / วัน) (คิดเป็น 9 วัน รวมเท่ากับ 45 USD)
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ท่านละ 3.00 USD /ท่าน / วัน (คิดเป็น 10 วัน รวมเท่ากับ 30 USD)
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3
หมายเหตุเกี่ยวกับการขอนุมัติวีซ่าประเทศตุรกีสำหรับชาวต่าง
*** ในการยื่นขอวีซ่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ทุกๆ ท่าน กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ครบตามที่ระบุ พร้อมส่งมอบเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า ไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง (ในกรณีที่เอกสารของท่านไม่สมบูรณ์ ทางสถานฑูตฯ อาจจะปฏิเสธการอนุมัติวีซ่าของท่านได้ และท่านจะต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่เอง หากต้องการยื่น
วีซ่าอีกครั้ง)
*** ในการพิจารณาอนุมัติวีซ่า จะอยู่ในดุลยพินิจของทางสถานฑูตฯ ซึ่งในบางกรณี อาจจะมีการเรียกเอกสารเพิ่มเติมจากที่ได้ระบุไว้ หรืออาจจะมีการเรียกสัมภาษณ์ในบางครั้ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่ท่านได้
*** อนึ่งระเบียบของสถานฑูตฯ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามแต่สถานการณ์ และคุณสมบัติของลูกค้าในแต่ละราย หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ โปรดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ทางบริษัทฯ จึงต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้
เอกสารประกอบขอวีซ่าเข้าประเทศตุรกีสำหรับชาวต่างชาติ
- หนังสือเดินทางเล่มจริงที่มีอายุในวันเดินทางมากกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างมากกว่า 2 หน้า
**ในกรณีที่มีเล่มเก่าไม่ต้องแนบมาป้องกันการสูญหายแต่รบกวนสำเนาหน้าวีซ่าที่เคยเดินทางมาด้วย เช่น
วีซ่าอเมริกา ญี่ปุ่ญ ออสเตเลีย ฯลฯ **
- สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก และต่ออายุ (ถ้ามี) (ไม่ต้องขีดคร่อม)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของลูกค้า และ สำเนาบัตรประชาชน (ไม่ต้องขีดคร่อม)
- รูปถ่ายสี รูปปัจจุบัน หน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
- หนังสือรับรองการทำงานตัวจริง ระบุตำแหน่ง วันเริ่มงาน วันลาหยุด และเงินเดือน (ประทับตราหน่วยงานหรือต้นสังกัดมาด้วยนะค่ะสำคัญมากๆ) หรือสำเนาทะเบียนการค้าในกรณีเป็นเจ้าของกิจการ พร้อมทั้งนามบัตรระบุอาชีพ ตำแหน่ง การงาน (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ)
** ระบุอีเมล์ที่ทำงาน อีเมล์ส่วนตัว เบอร์โทรที่ทำงานและเบอร์โทรส่วนตัว เพื่อใช้ประกอบการยื่นวีซ่า **
- หนังสือรับรอง ฐานะทางการเงินจากทางธนาคาร และ STATEMENT ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น พร้อมประทับตราจากทางธนาคาร พร้อม UP DATEเดือนปัจจุบัน และต้องมียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
- หนังสือเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล)
- ข้าราชการต้องมีจดหมายรับรองการทำงานจากต้นสังกัดพร้อมประทับตราต้นสังกัด และสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ 1 ชุด (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ)
- เด็กขอหนังสือรับรองจากทางโรงเรียน พร้อมประทับตราจากทางโรงเรียน(ตัวจริงเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น)
- เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จะต้องมีใบอนุญาตจากผู้ปกครองบิดาหรือมารดา หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีใบรับรองจากมารดา หรือหากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา หรือถ้าเด็กไม่ได้เดินทางกับบิดาและมารดา จะต้องมีจดหมายยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศจากทั้งบิดาและมารดา พร้อมทั้งมีการรับรองค่าใช้จ่ายให้กับบุตรกับผู้ที่บุตรเดินทางไปด้วย (ทำที่อำเภอ)
- กรณีเป็นแม่บ้านต้องแนบสำเนาทะเบียนสมรสมาด้วย
*** ในกรณีที่ให้เอกสารมาเป็นภาษาไทย มีอัตราค่าแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษฉบับละ 100 บาทถ้วน***
เงื่อนไข
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถเรียกค่าบริการคืนเป็นเงินได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะแพคแกจเหมาจ่าย
- รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือ บางส่วน
- บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน
- บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
หมายเหตุ
- ของเหลว เจล และเสปรย์ ทุกชนิด กรุณานำใส่กระเป๋าสัมภาระ กรณีที่จะนำติดตัวไปให้บรรจุใส่ถุงพลาสติกใสเปิด-ปิดผนึกได้ ไม่เกิน 1 ถุง ปริมาณที่ระบุไว้บนภาชนะที่ใส่ชิ้นละไม่เกิน 100ml/g รวมไม่เกิน 1,000ml/g
- สายการบินอินเดียนแอร์ไลน์ อนุญาติให้นำสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องได้ด้วยน้ำหนักไม่เกิน 20kg.
การจองทริปตุรกี
ผู้สนใจ โอนเงินมัดจำ 10,000 ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 30 วัน มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด
หมายเหตุ
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 25 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 10 วัน ก่อนออกเดินทาง
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การจ่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจรจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ให้ได้มากที่สุด
การท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรที่ท่านปฏิเสธ หรือ สละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนดินทาง
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง ฯลฯ และจะไม่คืนค่าทัวร์ที่ท่านได้ชำระมาทั้งหมดแล้ว
|