วันที่หนึ่ง |
กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานไม้อูเบ็ง-ทะเลสาบคองตามัน-วัดกุสินารา-เขามัณฑะเลย์ (-/-/D) |
10.00 น. |
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4 เคาท์เตอร์ F สายการบินบางกอกแอร์เวย์
Bangkok Airway (PG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน |
12.05 น. |
ออกเดินทางกรุงมัณฑะเลย์ โดยสารการบินไทย เที่ยวบินที่ PG-709 (บริการอาหาร และเครื่องดื่ม บนเครื่อง) |
13.25 น. (เวลาท้องถิ่น) |
เดินทางถึง สนามบินมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง อมรปุระ (Amrapura) เมืองแห่งผู้เป็นอมตะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นราชธานีเพียง 76 ปี แห่งหนึ่งของพม่าก่อนที่จะย้ายมายอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ในปี พ.ศ.2400 จากนั้นนำท่านผ่านชมภูเขาสกายศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาที่สำคัญ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกาย ลุ่มแม่นํ้าอิระวดี
เจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่นํ้า ชม สะพานไม้อูเบ็ง (U-Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ชื่อว่าเสาอู เสาของสะพาน
ใช้ไม้สักถึง1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน ไปสู่วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม |
เย็น |
นำท่านแวะวัดกุสินารา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์นำท่าน
เดินทางสู่เขา Mandalay Hill ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูก
นี้สูง 240 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่บน
ยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์เกือบทั้งเมือง ชมพระอาทิตย์ ลับฟ้าอันสวยงามบนยอดเขามัณฑะเลย์ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่พักที่ Hazel Hotel ณ เมืองมัณฑะเลย์ (หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว) |
วันที่สอง |
มัณฑะเลย์-พุกาม-วัดเจดีย์ชเวสิกอง-วัดอนันดา-วัดมนุหา-วัดกุบยางกี-วัดติโลมินโล-วัดสัญพัญญู-วิหารธรรมยันจี-เจดีย์ชเวชานดอร์-โชว์พื้นเมืองหุ่นเชิด (B/L/D) |
05.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า แบบกล่องจากทางโรงแรม |
06.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์ อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ |
07.55 น. |
ออกเดินทางสู่ สนามบินพุกาม สู่เมืองประวัติศาสตร์พุกาม โดยสายการบินAir Yangon เที่ยวบินที่ YH 910 |
08.25 น. |
เดินทางถึงเมืองพุกาม (Bagan) นำท่านนำท่านชม พระเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ซึ่งเป็นสถูปดั้งเดิมของพม่าโดยแท้ มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ สร้างขึ้นหลังพระเจ้าอโนรธาขึ้นครองราชย์ เพื่อ
ใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากพระสรีระหลายส่วน มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสวดมนต์ และ
ศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม ชม วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน สร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้
นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่น
ออกไปทั้ง 4 ด้านซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของ
พุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่าง
ส่องลงมาต้ององค์พระ ให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นพาท่านชม วัดมนุหา (Manuha Temple) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของหมู่บ้านมยินกะบา สร้างเมื่อปี 1059 โดยพระเจ้ามนูหะกษัตริย์แห่งมอญ เพื่อสั่งสมบุญไว้สำหรับชาติหน้า จึงได้นำอัญมณีบางส่วนไปขายมาสร้างวัดนี้ โครงสร้างวิหารค่อนข้างแคบ มีพระนอนหนึ่งองค์ กับ พระพุทธรูปอีกสามองค์นั่งเบียดเสียดอยู่ภายใน สะท้อนถึงความคับแค้นพระทัยของกษัตริย์เชลยพระองค์นี้เป็นอย่างดี |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านแวะชมสิ่งของขึ้นชื่อของพุกามก็คือ เครื่องเขิน (Lacquer Ware) ซึ่ง
ยอมรับกันว่ามีชื่อเสียงที่สุดในพม่า เช่น ถ้วยน้ำ จานรอง โถใส่ของตั้งแต่ขนาดเล็ก
ถึงใหญ่ หีบใส่ของต่างๆ สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือ โถใส่ของทำจากขนหางม้าสาน
กับโครงไม้ไผ่ มีขนาดเบาบางและบีบให้ยุบ แล้วกับไปคืนรูปได้ดังเดิม จากนั้น
พาท่านเที่ยว วัดกุบยางกี (Gubyaukkyi Tempel) สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธะ สิ่งที่โดดเด่นคือ ภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามที่สุดในพุกาม ที่ยังคงเหลืออยู่ จากนั้นเข้าชม วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) สร้างขึ้นเมื่อปี 1211 โดยพระบัญชาของพระเจ้านันต่าว-มยา เป็นพระโอรสในพระเจ้านรปติสิทธู ซึ่งเกิดกับนางห้ามผู้หนึ่ง และได้เสี่ยงทางเลือกให้เป็นราชทายาท เป็นวัดสูง 46 เมตร ยาว 43 เมตร เท่ากันทั้ง 4ด้านมีพระพุทธรูปประดิษฐ์ฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ ทั้งสองชั้น มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่กับลวดลายปูนปั้น อันประณีตสวยงาม สร้างโดยพระติโลมินโล เมื่อปี พ.ศ.1761 ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากทั้งภายในและภายนอก นมัสการ เจดีย์สัพพัญญู ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมืองพุกาม ชมวิหารธรรมยันจี (Dhammayangyt) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา ชมเมืองทะเลเจดีย์ที่สวยงาม และหมู่บ้านเก่าแก่เมืองพุกามที่ยังคงวิถีที่วิตที่เรียบง่าย จากนั้นนำท่านเดินทางชมและเก็บภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ เจดีย์ชเวซานดอว์ ท่านสามารถ มองเห็นทุ่งทะเจดีย์ในมุม 360 องศา ได้จากเจดีย์แห่งนี้ |
ค่ำ |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์เชิดหุ่นกระบอก ท่านจะได้ชมการ
เชิดหุ่นที่ดูเหมือนมีชีวิตจริง พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก |
พักที่ BAGAN AIRPORT HOTEL (หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ) |
วันที่สาม |
พุกาม-มัณฑะเลย์-เที่ยวเมืองมิงกุน-หมู่บ้านมิงกุน-เจดีย์มิงกุน-ล่องแม่น้ำอิระวดี-ระฆังมิงกุน-พระราชวังมัณฑะเลย์-พระราชวังไม้สักชเวนานจอง (B/L/D) |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
08.05 น. |
ออกเดินทางไปสนามบินพุกาม สู่เมืองมัณฑะเลย์ โดยสายการบิน Air Yangon เที่ยวบินที่ YH 917
จากนั้นนำท่านสู่ เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่มิงกุน จากท่าเรือใกล้เจดีย์ชเวไจยัต เขตเมืองอมรปุระ ทวนน้ำไปหมู่บ้านมิงกุน ซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิรวดีและไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้นทว่ามีอนุสรณ์สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปดุง ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น กึ่งบ้านกึ่งแพ เนื่องจากระดับ
น้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอนครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำเพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน นำท่านชม เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำ
สงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิเพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คนหลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษแล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจรลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆโดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่าอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุดอย่างไรก็ตาม งานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง7 ปี พระเจ้าปดุง
เสด็จสวรรคต ภายหลังทรงพ่ายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัย
ของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐานทว่าใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50 เมตร
ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 152 เมตร
ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ระฆังมิงกุนไม่ไกลจาก
ฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุนพระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์
มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10เมตร สูง 3.70 เมตร
น้ำหนัก87ตัน เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบจึง
รับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่
าระฆังแห่งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวทว่าระฆังเครมลินแตกร้าว
ไปแล้วชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวานทั้งนี้เคยมี
การทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กตัวเล็กๆไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คน เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยภูมิจักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลางณยอดเขาพระสุเมรุอันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ หลังจากนั้นเดินทางกลับมายังมัณฑะเลย์ |
บ่าย |
นำท่านชมพระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาหรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตร
โดยกองทัพอังกฤษ ได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่าด้วย
เหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่นพระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็น
พระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้เผาราบเป็นหน้ากลองหลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูนํ้ารอบ
พระราชวังที่ยังเป็นของดั่งเดิมอยู่ปัจจุปัน พระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้ จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา |
กลางวัน |
นำท่านไป พระราชวังไม้สักชเวนานจอง (Golden Palace Monastry) วังที่สร้างด้วย
ไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีต
อ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและ
ทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้าย
ราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลัง
จากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกวังนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่าง หลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง นำท่านชม วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ และหนังสือกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ว่า หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำเมนูพิเศษ สุกี้ชาบูชิ บุฟเฟ่ต์ โออิชิ เชิญทุกท่านอิ่มอร่อยกับ เมนูชาบูบุฟเฟ่ต์ในเครือโออิชิที่มีสาขาอยู่ที่มัณฑะเลย์ |
ที่พัก |
นำท่านเข้าสู่พักที่ Hazel Hotel ณ เมืองมัณฑะเลย์ (หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว) |
วันที่สี่ |
ร่วมพิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุณี - วัดมหากันดายง - มัณฑะเลย์ - กรุงเทพฯ (B/-/-) |
04.00 น |
นำท่านนมัสการ พระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่า ถือเป็นต้นแบบ
พระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อน จะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้นํ้าหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบ ๆ ระเบียงเจดีย์ยังมี
โบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 พร้อมทั้ง เชิญทุกท่านร่วมทำบุญ
บูรณวัดกุสินารา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ สวยงามมากจากนั้นกลับโรงแรม |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
10.00 น. |
นำชม วัดมหากันดายงค์ (Mahagandaryon Monastry) ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ ซึ่งในช่วงเพลจะมี
ภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับอาหาร วิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมและรักษาพร
ะธรรมวินัยมากที่สุด ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามของภิกษุสงฆ์ในวัดมหากันดายงค์
ทำให้มีชาวพม่าจำนวนมากส่งบุตรหลานมาศึกษาพุทธศาสนากันที่นี่ |
14.15 น. |
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 710
** บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ** |
16.40 น. |
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ |
|
**หมายเหตุ ทางบริษัทฯขอเรียนแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนการเดินทางในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินภายในยกเลิกเที่ยวบินเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือไฟล์ทภายในไม่บินมาลงเมืองที่จะไปท่องเที่ยว หรือไฟล์ทภายในโอเวอร์บุกกิ้ง เนื่องจากช่วงเดือนธ.ค.-เม.ย.ของทุกปี เป็นช่วงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวพุกาม-มัณฑะเลย์-อินเลกันเยอะมาก ทำให้ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศมีไม่เพียงพอความต้องการของนักท่องเที่ยว จึงต้องขออนุญาติเปลี่ยนการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นรถบัสปรับอากาศซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม. โดยทางบริษัทฯจะปรับรายการท่องเที่ยวให้เที่ยวครบตามความเหมาะสมโดยจะไม่ทำการตัดโปรแกรมใดๆทั้งสิ้น ลูกค้ากรุณาศึกษารายละเอียดก่อนทำการจองนะคะ **
**หมายเหตุ ในกรณีมีผู้จองทัวร์ 2 ท่านขึ้นไปแต่คณะเดินทางไม่ถึง 10 ท่านต่อทริปนั้น ทางบริษัทฯการันตีออกเดินทางตามปกติทุกรายการที่มีลูกค้าจองแต่จะไม่มีหัวหน้าทัวร์ไทยเดินทางไปด้วย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลส่งลูกทัวร์ที่สนามบินและช่วยดำเนินการดูแลบริการด้านการเช็คอินและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับทริปนั้นๆให้ลูกค้าก่อนเดินทางเพื่อทำความเข้าใจ ส่วนไกด์ท้องถิ่นจะเป็นไกด์พูดภาษาอังกฤษเท่านั้น ยกเว้นคณะนั้นมีผู้จองทัวร์ 10 ท่านขึ้นไปทางบริษัทฯจะจัดหัวหน้าทัวร์ไทยและไกด์ท้องถิ่นพูดไทยคอยดูแลทุกท่านตลอดทริป **
|
|
** ราคานี้สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ถือ passport ไทย เท่านั้นค่ะ หากเป็นชาวต่างชาติมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม 150 USD และ ค่าวีซ่าเพิ่มอีก ท่านละ 1,000 บาท
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว
- ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเส้นทางมัณฑะเลย์-พุกาม-มัณฑะเลย์
- ที่พักโรงแรมตามรายการ 3 คืน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
- อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
- ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
- ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ
อัตราค่าบริการไม่รวม
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น , คนขับรถ ผู้ช่วยคนขับรถ ใน อัตราวันละ 150 บาท/วัน/คน (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศค่ะ)
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)
หมายเหตุ
>> การสำรองที่นั่งจะเกิดการยืนยันว่าเดินทาง เมื่อท่านแฟกซ์สำเนาการชำระค่าบริการและได้รับการยืนยันจากพนักงานขายเท่านั้น กรณีไม่ได้รับความสะดวก กรุณาติดต่อเบอร์ 081-8180806 / 086-142-6617
>> บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงใดๆก่อนเดินทางอย่างน้อย 7 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 15 ท่าน หรือเกิดสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้ไม่เกิดความสะดวกต่อการเดินทางทางบริษัทฯ
ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ หรือนำคณะเดินทางโดยไม่มีหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย แต่มีผู้ดูแลเมื่อท่านเดินทางถึงแต่ละประเทศ
>> บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้เมื่อเกิดเหตุจำเป็น สุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ ที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจลต่างๆ
>> เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้า
ประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
>> ทุกที่นั่งมีประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1 ล้านบาท (ค่ารักษาพยาบาล ห้าแสนบาทและมีเงื่อนไขอื่นๆระบุตามกรรมธรรม์)
>> อาจมีการปรับเปลี่ยนราคาทัวร์ขึ้นโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในกรณีที่มีอัตราแลกเงินมีการเปลี่ยนแปลงจน
กระทบกับราคาทัวร์หรือสายการบินปรับขึ้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆเช่นค่าภาษีน้ำมัน หรือภาษีสนาม บินต่างๆ / หรือ รัฐบาลของประเทศต่างๆประกาศปรับราคาค่าบัตรผ่านประตูสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
>> กรณีที่ท่านชำระมัดจำหรือชำระค่าทัวร์แล้วต้องการยกเลิกการเดินทาง ต้องทำก่อนการเดินทางอย่างน้อย 45 วัน โดยนับเฉพาะวันทำการทางบริษัทฯจะดำเนินการตรวจเช็คและคืนค่าใช้จ่ายให้ตามจริง(ยกเว้นค่าวีซ่า),กรณียกเลิกการเดินทางเนื่องจากป่วยต้องนำส่งใบรับรองแพทย์เพื่อทำเรื่องกับสายการบินและโรงแรมที่พัก และต้องรอฟังผลตอบรับว่าสามารถทำเรื่องคืนได้
หรือไม่กรณีที่ชำระค่าใช้จ่ายเป็นบัตรเครดิตและต้องการยกเลิกท่านต้องยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับดอกเบี้ยและค่าดำเนินการจ่ายบัตรเครดิตที่ทางธนาคารทำการเรียกเก็บ อนึ่งตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักเป็นราคาแบบหมู่คณะหากต้องการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ท่านอาจมีค่าใช้จ่าย กรุณาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งก่อนยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง
|